เอสซีจี รวมพลังภาคีเครือข่ายและชุมชน ร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ 72 พรรษา เดินหน้าขยายผลโครงการภายใต้แนวคิด “ฟื้นน้ำ สร้างป่า พัฒนาคุณภาพชีวิต”

เอสซีจี ร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 โดยขอน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายและชุมชน ขยายผลโครงการต่าง ๆ ภายใต้แนวคิด “ฟื้นน้ำ สร้างป่า พัฒนาคุณภาพชีวิต” มุ่งขยายผลสำเร็จ เพื่อให้คนไทยได้รับโอกาสทางการศึกษา เกิดอาชีพมั่นคง มีสุขภาพที่ดี และระบบนิเวศสมบูรณ์

ฟื้นน้ำ สร้างป่า – คืนสมดุลให้ระบบนิเวศจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ พร้อมรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ยึดหลัก “หาน้ำได้ เก็บน้ำไว้ ใช้น้ำเป็น” เพื่อชุมชนยั่งยืน มีน้ำกิน น้ำใช้ น้ำทำเกษตรตลอดปี ด้วยการสร้างฝายชะลอน้ำ 7,210 ฝาย ปลูกและอนุรักษ์ป่าชุมชน 72,000 ไร่ ปลูกป่าโกงกางและหญ้าทะเลกว่า 200,000 ต้น เกิดชุมชนจัดการน้ำยั่งยืน 72 ชุมชน ซึ่งทั้งหมดช่วยสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ผืนป่าและพื้นที่ชายฝั่งทะเล ทั้งยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ ลดโลกร้อน พร้อมต่อยอดสู่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวิถีชุมชน สร้างรายได้เศรษฐกิจหมุนเวียนในท้องถิ่น

พัฒนาคุณภาพชีวิต – ร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นรอบด้าน ผ่านการขับเคลื่อนโครงการทั้งด้านการศึกษา อาชีพ และสุขภาวะ

สร้างโอกาสทางการศึกษา  การศึกษาเป็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างยั่งยืน มูลนิธิเอสซีจีจึงมอบทุนการศึกษา แก่เด็กและเยาวชน ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการ “Learn to Earn” เรียนรู้เพื่ออยู่รอด 72 ทุน เป็นทุนระยะสั้น เน้นสาขาที่ตอบความต้องการของตลาดแรงงาน ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและสภาพสังคมในปัจจุบัน รวมถึงโครงการ “ต้นกล้าชุมชน” 72 ทุน สร้าง ‘นักพัฒนารุ่นใหม่’ ให้เป็นกำลังสำคัญในการดูแลพัฒนาบ้านเกิด ให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยการติดอาวุธความรู้ด้านการบริหารจัดการโครงการและส่งเสริมศักยภาพตนเอง

สร้างอาชีพ สร้างรายได้มั่นคง  ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชุมชน ด้วยการพัฒนาอาชีพมั่นคง อาทิ โครงการ “พลังชุมชน” สร้างอาชีพ 720 คน โดยการอบรมเสริมความรู้คู่คุณธรรม น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ส่งเสริมชุมชนให้เห็นคุณค่าและพัฒนาศักยภาพตนเอง แปรรูปเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ควบคู่กับการเรียนรู้เข้าใจลูกค้าและตลาด รู้จักบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อให้ชุมชนมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

ส่งเสริมสุขภาวะ  ลดเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข เพื่อให้ผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือขาดแคลนกำลังทรัพย์ มีโอกาสเข้าถึงระบบสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง อาทิ โครงการ “แพทย์ดิจิทัล ดูแลผู้ป่วยทางไกล” ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 72 แห่งใน 19 จังหวัดทั่วประเทศ สร้างโอกาสการเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้นวัตกรรม DoCare ของเอสซีจี ดูแลผู้ป่วยทางไกลด้วยระบบ Tele-monitoring ติดตามสุขภาพ เก็บข้อมูลอย่างแม่นยำและต่อเนื่อง พร้อมระบบ Telemedicine ปรึกษาแพทย์ทางไกล ขณะเดียวกันมูลนิธิเอสซีจี ได้สนับสนุนมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ในการผ่าตัดรักษาโรคปากแหว่ง เพดานโหว่แต่กำเนิด 72 ชีวิต ให้กลับมามีรอยยิ้มที่สดใส

นอกจากนั้น เอสซีจียังมีโครงการอื่น ๆ ที่ร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สังคมน่าอยู่ และสิ่งแวดล้อมยั่งยืน เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา อาทิ โครงการ “ราษฎรสุขใจ พลานามัยสมบูรณ์” แพทย์พระราชทาน คืนดวงตาและรอยยิ้มสดใสแก่ผู้ป่วย 7,227 คน โดยร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ภาคีเครือข่าย นำคณะจักษุแพทย์ให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคต้อกระจก เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ให้สามารถเข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม  โครงการ “พัฒนาสระบ่อดินขาว” อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จากความร่วมมือของทุกฝ่ายที่ช่วยกันบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เกิดระบบนิเวศน้ำที่สร้างความชุ่มชื้นทุกฤดูกาลให้กับชาวตาคลี  และโครงการปรับปรุงเส้นทางภูทับเบิก – บ้านนาสะอุ้ง – บ้านหมากแข้ง จ. เพชรบูรณ์ และ จ.เลย ร่วมกับกองทัพบก ปรับปรุงถนนเส้นทางภูทับเบิก – บ้านนาสะอุ้ง – บ้านหมากแข้ง ระยะทาง 14.205 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่นักเรียนและผู้ป่วย รวมถึงเกษตรกรได้ลำเลียงพืชผลการเกษตรไปจำหน่ายนอกพื้นที่ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้ชุมชน

“การสร้างความยั่งยืน” คือหัวใจหลักของทุกโครงการภายใต้แนวคิด “ฟื้นน้ำ สร้างป่า พัฒนาคุณภาพชีวิต” ซึ่งเอสซีจี ภาคีเครือข่าย และชุมชน มุ่งมั่นขยายผลสำเร็จของโครงการต่าง ๆ เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี สิ่งแวดล้อมสมดุล ทุกชีวิตพร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

 

Published on: Jul 26, 2024

(Visited 224 times, 1 visits today)
ดาวน์โหลดข่าว