Close
Skip to content
  • Thursday, March 23, 2023
SCG

SCG NEWS CHANNEL

  • HOME
  • Business
  • Circular Way
  • Innovation
  • Products & Services
  • Sports
  • Sustainability & ESG
  • VDO
  • Home
  • SCG เดินหน้าพิทักษ์ทะเล บูรณาการจากต้นทางถึงปลายทาง จัดการขยะบก ทุ่นกักขยะลอยน้ำ บ้านปลา ขานรับวันทะเลโลก
Sustainability & ESG

SCG เดินหน้าพิทักษ์ทะเล บูรณาการจากต้นทางถึงปลายทาง จัดการขยะบก ทุ่นกักขยะลอยน้ำ บ้านปลา ขานรับวันทะเลโลก

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รณรงค์แก้ไขปัญหาขยะทะเลอย่างจริงจังภายใต้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้ท้องทะเลไทยกลับมางดงาม ใสสะอาด เป็นที่พักพิงของสัตว์น้ำน้อยใหญ่ รวมทั้งมนุษย์อย่างเรา ๆ ด้วย  สาเหตุหลักของการเกิดปัญหาขยะทะเลนั้น มาจากการจัดการขยะบกที่ไม่ถูกต้อง เกิดการหลุดรอดไหลผ่านแม่น้ำ ลำคลองสาขาต่าง ๆ กว่า 9,000 สาย จนไปรวมตัวกันอยู่ที่ทะเล จากคำขวัญวันทะเลโลกปี 2564 ที่ว่า “รู้รักษามหาสมุทร เพื่อวิถีมนุษย์ที่ยั่งยืน” (The Ocean: Life and Livelihood) สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างวิถีมนุษย์กับความสมบูรณ์ของท้องทะเล หากมนุษย์ยังอยู่ในวิถีเดิม ๆ ที่ปราศจากความรับผิดชอบ ทิ้งขยะไม่ถูกที่ ปล่อยปละละเลย ท้องทะเลก็อาจจะกลายเป็นบ่อขยะในที่สุด เราอยากให้ลูกหลานได้เห็นและเผชิญกับบ่อขยะในทะเลอย่างนั้นหรือ

สำหรับเอสซีจี “การรักษามหาสมุทร เพื่อวิถีมนุษย์ที่ยั่งยืน” นั้น จำเป็นต้องบูรณาการจากต้นทางถึงปลายทาง นั่นคือ เริ่มจากการจัดการขยะบนบกให้ถูกต้องตามวิถีชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ – ป้องกันขยะหลุดรอดลงทะเลด้วยนวัตกรรมทุ่นกักขยะลอยน้ำ – เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพด้วยนวัตกรรมบ้านปลา

เอสซีจีมุ่งคิดค้นพัฒนานวัตกรรมที่ประยุกต์วัสดุพลาสติกที่มีความแข็งแรง ทนทานชนิดพิเศษ เพื่อตอบโจทย์การกักขยะในแม่น้ำลำคลองก่อนไหลลงสู่ท้องทะเล โดยได้ร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนกลายมาเป็นนวัตกรรม “ทุ่นกักขยะลอยน้ำ” รุ่น 1 (SCG – DMCR Litter Trap: Generation 1)  ซึ่งได้นำท่อชนิด PE100 ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาทำงานร่วมกับวัสดุคล้ายเสื้อชูชีพ สามารถรองรับขยะได้กว่า 700 กิโลกรัม เพื่อนำไปติดตั้งบริเวณแม่น้ำลำคลอง

 

น้ำทิพย์ สำเภาประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารแบรนด์และกิจการเพื่อสังคม ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี

“เอสซีจีดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ธุรกิจยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด ESG (Environmental, Social and Governance) ที่มุ่งดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม อย่างมีธรรมาภิบาล เพื่อให้ธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน  โดยเอสซีจีได้ร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานภาครัฐ ดูแลชายฝั่งทะเลระยองมาอย่างต่อเนื่องกว่า 20 ปี ด้วยการใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญของธุรกิจมาพัฒนานวัตกรรมเพื่อสังคม ช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่ง “ทุ่นกักขยะลอยน้ำ” เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ออกแบบเพื่อช่วยจัดการปัญหาขยะที่หลุดรอดลงทะเล โดยได้ออกแบบให้ทนต่อสภาพดินฟ้าและอากาศ ซึ่งได้นำทุ่นกักขยะรุ่นที่ 1 ไปวางจุดแรกที่ปากน้ำ จ.สมุทรสาคร และ จ.ระยอง พบว่า มีประสิทธิภาพมาก สามารถกักขยะไว้ในทุ่นได้จำนวนมาก” น้ำทิพย์ สำเภาประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารแบรนด์และกิจการเพื่อสังคม ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าว

ไม่หยุดพัฒนา “ทุ่นกักขยะลอยน้ำ” ให้ทรงประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การทำงานด้านนวัตกรรมไม่เคยสิ้นสุด เอสซีจียังคงเดินหน้าพัฒนาทุ่นกักขยะลอยน้ำให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น โดยรับฟังข้อคิดเห็นจากกลุ่มผู้ทำงานในพื้นที่ และจากการสำรวจหน้างานด้วยตนเอง พบว่า ตัวทุ่นลอยน้ำที่ทำหน้าที่คล้ายชูชีพใน Litter Trap รุ่นที่ 1 ไม่สามารถทนแดดทนฝนได้นาน ทำให้ต้องคอยเปลี่ยนวัสดุใหม่บ่อย ๆ  จึงนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรม “ทุ่นกักขยะลอยน้ำ จาก HDPE-Bone” (SCG-DMCR Litter Trap Generation 2) โดยประยุกต์ทุ่นที่เอสซีจีออกแบบเพื่อใช้กับโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำสำหรับผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ (Floating Solar) มาทดลองใช้กับทุ่นกักขยะ ทำให้มีคุณสมบัติทนต่อกระแสน้ำ ทนแสงแดดได้ในระยะยาว และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงช่วยให้ทุ่นกักขยะรุ่นใหม่ตอบโจทย์การใช้งานได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ประกอบง่าย สะดวกในการขนย้าย และหากเสื่อมสภาพหรือได้รับความเสียหายยังสามารถนำมารีไซเคิลได้ทั้งหมดอีกด้วย

ปัจจุบัน เอสซีจี ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ติดตั้งทุ่นกักขยะลอยน้ำรวมกว่า 37 ชุด ใน 17 จังหวัด สามารถลดปริมาณขยะลงสู่ทะเลได้กว่า 71 ตัน

นวัตกรรม “ทุ่นกักขยะลอยน้ำ”

พลังจาก 3 ฝ่าย ปัจจัยความสำเร็จจัดการปัญหาขยะ

ภารกิจด้านจัดการขยะท้องทะเลไม่อาจจะทำได้เพียงข้ามวัน หรือจบเพียงแค่ผลิตทุ่นกักขยะ แต่ยังต้องอาศัยกลไกความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาสังคม โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จะเป็นผู้สำรวจข้อมูลพื้นที่ กำหนดจุดติดตั้ง ส่วนชุมชนในพื้นที่ช่วยจัดการขยะที่กักได้จากทุ่นฯ เพื่อนำไปคัดแยกและนำไปใช้ประโยชน์ต่อ เช่น ขยะอินทรีย์นำไปทำเป็นปุ๋ย พลาสติกใช้แล้วหรือวัสดุที่รีไซเคิลได้ ไปจำหน่ายสร้างรายได้ เป็นต้น

“กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้รับความร่วมมือทั้งจากเอสซีจี และชุมชนในพื้นที่ โดยร่วมกันตั้งแต่การวิเคราะห์ปัญหา พัฒนานวัตกรรม จนไปถึงการลงมือแก้ไข โดยหลังจากที่ทาง ทช. ติดตั้งทุ่นกักขยะในแต่ละพื้นที่แล้ว จะมีการสร้างการมีส่วนร่วมด้วยการดึงชุมชนเข้ามาร่วมเก็บขยะ และคัดแยกตามระบบสากล ICC (International Coastal Cleanup) ด้วยการชั่งน้ำหนักขยะ พร้อมจดบันทึก เพื่อวิเคราะห์ว่าส่วนใหญ่แล้วขยะที่เกิดขึ้นในพื้นที่คือชนิดอะไร มากน้อยแค่ไหน นำไปสู่การบริหารจัดการร่วมกันต่อไป” นายวิชัย มณีเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง กล่าว

นายวิชัย มณีเนตร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง

เพื่อแก้ปัญหาอย่างบูรณาการและยั่งยืน  เอสซีจี ได้ช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการคัดแยกขยะ และช่วยหาแหล่งปลายทางของขยะให้กับชุมชนด้วย หนึ่งในชุมชนที่เอสซีจีได้ร่วมขับเคลื่อน คือ กลุ่มวิสาหกิจอนุรักษ์ฟื้นฟูแม่น้ำระยองและป่าชายเลน จ.ระยอง ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของชุมชนที่อยู่ใกล้ปากน้ำ เพื่อนำขยะที่รีไซเคิลได้ไปจำหน่ายเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลต่อไป เช่น ขวดแก้ว ขวดพลาสติก กระป๋อง ในขณะเดียวกัน เอสซีจีได้สนับสนุนให้ชุมชนรู้จักการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง จนได้รับการยกระดับให้เป็น “ศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะ” สร้างวิถีชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ ภายในชุมชน สร้างมุมมองใหม่ให้เห็นคุณค่าของขยะ

นางสาวกนกกร จำปาทอง ประธานวิสาหกิจอนุรักษ์ฟื้นฟูแม่น้ำระยองและป่าชายเลน เผยว่า  “เพราะท้องถิ่นใคร ใครก็ต้องรัก เราต้องใช้ชีวิตและทำมาหากินอยู่ที่นี่ เราเห็นในน้ำมีขยะที่มากขึ้นทุกวัน จึงเกิดการรวมตัวกันจากจิตสำนึกของพวกเรา โดยกลุ่มอาสาสมัครจะนัดกันในวันที่น้ำขึ้น เพราะจะมีขยะเข้าในติดในทุ่นอย่างแน่นอน แล้วจึงเอาเรือออกไปและใช้สวิงช้อนขยะจากในทุ่นกักขยะใส่ตะกร้า และนำมาคัดแยกบนบก แต่ละครั้งสามารถเก็บขยะได้มากกว่า 500 กิโลกรัม ซึ่งช่วยทุ่นแรงเป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องไปพายเรือเก็บตามข้างทางเหมือนเมื่อก่อน”

นางสาวกนกกร จำปาทอง ประธานวิสาหกิจอนุรักษ์ฟื้นฟูแม่น้ำระยองและป่าชายเลน

ความร่วมมือระดับโลก จัดการขยะทะเล ตามหลัก Circular Economy

จากความพยายามและความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วน สู่การขยายเครือข่ายระดับโลกอย่าง The Ocean Cleanup ซึ่งมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยป้องกันขยะจากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเลและมหาสมุทร จากประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยจะนำ The InterceptorTM มาติดตั้งในแม่น้ำเจ้าพระยาสำหรับดักจับขยะก่อนไหลลงสู่ทะเล ความร่วมมือในครั้งนี้ จะทำให้ประเทศไทยสามารถเก็บข้อมูลขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เพื่อนำไปศึกษาความเป็นไปได้ในการนำขยะจากแม่น้ำมาสร้างประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

“ข้อดีของการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือ คือ ทำให้เกิด Impact มากขึ้น และ Speed ดีขึ้น เราสามารถนำความเก่งและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาต่อยอดซึ่งกันและกันยั่งยืน  เช่น ทาง ทช. มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรธรรมชาติหลายด้าน ส่วนเอสซีจีมีวัสดุและนวัตกรรมที่ช่วยตอบโจทย์  ชุมชนมีพลังขับเคลื่อนภายในพื้นที่  ผนวกกับเครือข่ายการทำงานทั้งในและต่างประเทศ เมื่อนำมาบูรณาการร่วมกัน จะช่วยให้สังคมและสิ่งแวดล้อมดีขึ้นอย่างยั่งยืน ” น้ำทิพย์ กล่าว

ตักขยะจากทุ่นกักขยะ SCG ระยอง

ฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ

โครงการบ้านปลาเอสซีจี พื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลกว่า 47 ตารางกิโลเมตร ก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลกว่า 172 ชนิด ด้วยโครงสร้างบ้านปลาที่ถูกคิดค้นออกแบบมาอย่างดี ประกอบกับการใช้ท่อ PE100 ที่ปลอดภัยและมีพื้นผิวเอื้อต่อการอาศัยของสัตว์น้ำทั้งเพรียงและหอย ส่งผลให้บ้านปลาถูกปกคลุมไปด้วยสัตว์น้ำมากมาย ปลาน้อยใหญ่เข้ามาใช้เป็นแหล่งพักอาศัยและหลบภัย การเพิ่มขึ้นของปริมาณสัตว์น้ำอย่างสมดุล ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง สร้างสมดุลสู่ระบบนิเวศ และเป็นเสมือนคลังทรัพยากรในทะเลที่ชาวประมงสามารถทำมาหากินได้อย่างยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลาน

หากเราจะรักษา “ทะเล” ให้คงความสวยงาม และเป็นแหล่งทรัพยากรอันทรงคุณค่าสู่รุ่นต่อ ๆ ไป เราต้องปิดฉากขยะทะเลที่รุ่นของเรา ด้วยวิถีชีวิตใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนความคิดจาก Me เป็น We มองเรื่องส่วนรวมก่อนเรื่องส่วนตัว เรื่องเล็ก ๆ ใกล้ ๆ ตัว เช่น การคัดแยกขยะในบ้าน การทิ้งขยะให้ถูกที่ แต่ผลลัพธ์ช่างยิ่งใหญ่ เปลี่ยนโลกใบนี้ได้ด้วยสองมือเรา

โครงการบ้านปลาเอสซีจี

ผู้ที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และการจัดการขยะ สามารถติดตามได้ที่ https://www.scg.com/sustainability/circular-economy/ และสามารถติดตามข่าวสารอื่นๆ ของเอสซีจีได้ที่ https://scgnewschannel.com / Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel

Published on: Jun 8, 2021

(Visited 526 times, 1 visits today)
ดาวน์โหลดข่าว
Tags: เศรษฐกิจหมุนเวียน, Circular Economy, ชุมชน LIKE (ไร้) ขยะ, Environmental Social and Governance, ทุ่นกักขยะลอยน้ำ, แนวคิด ESG, วันทะเลโลก, DMCR Litter Trap

Post navigation

ถึงเวลาต้องเปลี่ยน SCG ชวนคนไทยเปลี่ยนโลกที่คุณแคร์เพื่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ฉายแนวคิดการลงทุนของ ‘AddVentures’ หนึ่งใน VC ไทยภายใต้เครือ SCG พร้อมมองโอกาสของ ‘สตาร์ทอัพ’ ในยุคปัจจุบัน

RECENT NEWS

Sustainability & ESG

“โรงเรียนทักษะพิพัฒน์” โดย SCGJWD ร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่าย จัดอบรมขับขี่จักรยานยนต์เชิงป้องกันให้กลุ่มไรเดอร์ และ วินมอเตอร์ไซค์ มุ่งสร้างความรู้และความปลอดภัยบนถนนอย่างยั่งยืน

March 22/2023
Sustainability & ESG

SCG ร่วมมอบรางวัลแก่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการรับรองมาตรฐานอาคาร “LEED Zero Waste” และ “TRUE Certification ในระดับ Platinum” เป็นแห่งแรกในอาเซียน

March 22/2023
Sustainability & ESG

เอสซีจี ชวน 500 ชุมชน เลิกแล้ง-เลิกจน ด้วยความรู้คู่คุณธรรม

March 21/2023
Business

ทีม cWallet จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คว้ารางวัลชนะเลิศ การแข่งขัน SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2023 รอบประเทศไทย ศศินทร์ X SCGC เดินหน้ายกระดับสตาร์ตอัปไทยสู่ระดับโลก

March 21/2023
Sustainability & ESG

SCGC x Colgate เร่งพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม เดินหน้าสู่บรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบา ด้วยโซลูชันพลาสติกที่แข็งแรงเป็นพิเศษจาก SCGC GREEN POLYMER ลดการใช้วัสดุและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างยั่งยืน

March 20/2023

Videos

รักษ์ภูผามหานที

นี่แหล่ะ... หนูน้อยกู้โลก

Expo 2028 Phuket Thailand - โปรจีน อาฒยา ฐิติกุล

Expo 2028 Phuket Thailand - โปรเมียว ปาจรีย์ อนันต์นฤการ

SCG CORPORATE

  • รู้จักเอสซีจี
  • ธุรกิจเอสซีจี
  • แบรนด์เอสซีจี
  • สินค้าและบริการ
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • บรรษัทภิบาล
  • การพัฒนาอย่างยั่งยืน

LATESTS IMAGES

Sustainability & ESG

“โรงเรียนทักษะพิพัฒน์” โดย SCGJWD ร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่าย จัดอบรมขับขี่จักรยานยนต์เชิงป้องกันให้กลุ่มไรเดอร์ และ วินมอเตอร์ไซค์ มุ่งสร้างความรู้และความปลอดภัยบนถนนอย่างยั่งยืน

March 22/2023
Sustainability & ESG

SCG ร่วมมอบรางวัลแก่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการรับรองมาตรฐานอาคาร “LEED Zero Waste” และ “TRUE Certification ในระดับ Platinum” เป็นแห่งแรกในอาเซียน

March 22/2023
Sustainability & ESG

เอสซีจี ชวน 500 ชุมชน เลิกแล้ง-เลิกจน ด้วยความรู้คู่คุณธรรม

March 21/2023
Business

ทีม cWallet จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คว้ารางวัลชนะเลิศ การแข่งขัน SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2023 รอบประเทศไทย ศศินทร์ X SCGC เดินหน้ายกระดับสตาร์ตอัปไทยสู่ระดับโลก

March 21/2023
Sustainability & ESG

SCGC x Colgate เร่งพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม เดินหน้าสู่บรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบา ด้วยโซลูชันพลาสติกที่แข็งแรงเป็นพิเศษจาก SCGC GREEN POLYMER ลดการใช้วัสดุและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างยั่งยืน

March 20/2023
Sustainability & ESG

สถานทูตไทย-สวีเดน จับมือ เอสซีจี ผลักดันโมเดลจัดการป่ายั่งยืนระดับโลก ตัดไม้แต่ได้ป่า ใช้นวัตกรรมเพิ่มพื้นที่ป่าไทย สร้างเศรษฐกิจเติบโต

March 17/2023
Sustainability & ESG

SCGC เดินหน้าส่งเสริม Eco School สร้างเยาวชนต้นแบบตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน จับมือภาครัฐและโรงเรียน ลงนามความร่วมมือขับเคลื่อนการจัดการขยะ เพิ่มปริมาณการรีไซเคิล เน้นให้เยาวชนเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง

March 16/2023
Innovation

เอสซีจี ชู แนวคิด “Clean Air for All” ย้ำความสำคัญของคุณภาพอากาศที่สะอาดปลอดภัย ในงาน “SCG Bi-ion Talk 2023”

March 16/2023
Business

SCGC รับรางวัล Asia’s Greatest COO 2023 จากความเป็นเลิศด้านปฏิบัติการ ยกระดับ Operational Excellence ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

March 14/2023

NEWS CATEGORIES

  • Innovation
  • Business
  • Sports
  • Sustainability & CSR
  • Circular Way
  • Products & Services
  • VDO

MEDIA CONTACT

  • 02-586-4444
  • 02-586-2974
  • INFO@SCG.COM
COPYRIGHT 2020 SCG