Skip to content
  • Monday, June 27, 2022
SCG

SCG NEWS CHANNEL

  • HOME
  • Business
  • Circular Way
  • Innovation
  • Products & Services
  • Sports
  • Sustainability & CSR
  • VDO
  • Home
  • ผลประกอบการเอสซีจีไตรมาส 1 ประจำปี 2564 ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลก มุ่งเป็นต้นแบบธุรกิจ ESG สร้างการเติบโตระยะยาว
Business

ผลประกอบการเอสซีจีไตรมาส 1 ประจำปี 2564 ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจโลก มุ่งเป็นต้นแบบธุรกิจ ESG สร้างการเติบโตระยะยาว

เอสซีจีเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2564 กำไรเพิ่มขึ้น จากนวัตกรรมเคมีภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มรับตลาดโลกฟื้น การเริ่มผลิตของโรงงานมาบตาพุดโอเลฟินส์ เฟส 2 และการส่งมอบโซลูชันที่อยู่อาศัย ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการปรับปรุงบ้านในช่วง Work from Home ขณะที่บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร-เครื่องดื่ม และอีคอมเมิร์ซเติบโตต่อเนื่อง ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุน พร้อมมุ่งขับเคลื่อนองค์กรสู่ต้นแบบธุรกิจ ESG ด้วยการลงนามในสัญญาซื้อหุ้นในบริษัทรีไซเคิลพลาสติก ในโปรตุเกส พัฒนาโซลูชัน Medical & Healthcare และ EV รับเทรนด์โลก เพื่อสร้างการเติบโตระยะยาว

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า “งบการเงินรวมก่อนสอบทานของเอสซีจี ไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2564 มีรายได้จากการขาย 122,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากไตรมาสก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของทุกกลุ่มธุรกิจ และมีกำไรสำหรับงวด 14,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 85 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนจากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยธุรกิจเคมิคอลส์มีปริมาณขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงของโรงงานมาบตาพุดโอเลฟินส์ (MOC) ในไตรมาสก่อน การเริ่มผลิตของโรงงานมาบตาพุดโอเลฟินส์ เฟส 2 (MOC Debottleneck) และอุปสงค์ทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างดีขึ้นจากปัจจัยตามฤดูกาล ด้านธุรกิจแพคเกจจิ้งมีการขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำ (Downstream) ในภูมิภาคอาเซียนให้เติบโตยิ่งขึ้น และกระจายฐานลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และกำไรสำหรับงวดเพิ่มขึ้นร้อยละ 114 สาเหตุหลักจากธุรกิจเคมิคอลส์มีส่วนต่างราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น

คุณรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี

ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 เอสซีจีมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Products & Services – HVA) 41,475 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34 ของรายได้จากการขายรวม ทั้งนี้ ยังมีสัดส่วนของการพัฒนาสินค้าใหม่ (New Products Development – NPD) และ Service Solution เช่น โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy Solution) โซลูชันบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ (Smart and Functional Solutions) คิดเป็นร้อยละ 13 และ 5 ของรายได้จากการขายรวม

นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ รวมการส่งออกจากประเทศไทย ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ทั้งสิ้น 51,104 ล้านบาท โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 42 ของรายได้จากการขายรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มีมูลค่า 800,932 ล้านบาท โดยร้อยละ 38 เป็นสินทรัพย์ในอาเซียน

ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2564 แยกตามรายธุรกิจ ดังนี้

  • ธุรกิจเคมิคอลส์ มีรายได้จากการขาย 51,607 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43 จากไตรมาสก่อน จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงของโรงงาน MOC ในไตรมาสก่อน และการเริ่มผลิตของโครงการ MOC Debottleneck ในไตรมาสนี้ และเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 8,829 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 51 จากไตรมาสก่อน จากปริมาณขายและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นร้อยละ 397 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากส่วนต่างราคาสินค้าและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากบริษัทกรุงเทพ ซินธิติกส์ จำกัด หรือ BST ที่เป็นผู้ผลิตน้ำยางสังเคราะห์ไนไตรล์รายเดียวในประเทศไทย เพื่อการผลิตถุงมือยางไนไตรล์สำหรับแพทย์
  • ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีรายได้จากการขาย 46,185 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความต้องการสินค้าและบริการในภูมิภาคที่ลดลง และการซ่อมบำรุงตามแผนของโรงงานปูนซีเมนต์ในประเทศกัมพูชา โดยมีกำไรสำหรับงวด 2,809 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จากปัจจัยตามฤดูกาล
  • ธุรกิจแพคเกจจิ้ง มีรายได้จากการขาย 27,253 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 2,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของความต้องการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในอาเซียน ราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคปรับตัวสูงขึ้น การรุกขยายพอร์ตสินค้าบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำ และบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม และสินค้าเพื่อสุขอนามัย ฯลฯ การปรับตัวอย่างรวดเร็วด้วยการกระจายฐานลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงกลยุทธ์ Merger & Partnership หรือ M&P ได้แก่ การเข้าลงทุนใน Bien Hoa Packaging Joint Stock Company (SOVI) ประเทศเวียดนาม และการเข้าลงทุนใน Go-Pak UK Limited เพื่อขยายฐานตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารในภูมิภาคต่าง ๆ รองรับเมกะเทรนด์
แถลงผลประกอบการเอสซีจี ไตรมาสที่ 1 ปี 2564

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า “ผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง เอสซีจีจึงเตรียมความพร้อมด้วยการปรับตัวให้มีความยืดหยุ่น (Resiliency) เช่น เพิ่มสัดส่วนการขายนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุน โดยยังคงรักษาความปลอดภัยด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 อย่างเคร่งครัด ทั้งกับพนักงาน ลูกค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตลอดกระบวนการทำงาน เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจ ส่งมอบสินค้า บริการ และโซลูชันครบวงจรต่าง ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Management หรือ BCM)

ขณะเดียวกัน เอสซีจีได้มุ่งดำเนินทุกธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวคิด ESG (Environmental, Social and Governance – ESG) โดยเร่งพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการ พร้อมโซลูชันครบวงจรด้าน Circular Economy, Medical & Healthcare และยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) ที่กำลังเติบโตสูง โดยล่าสุดได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นในบริษัท Recycled Plastic ในประเทศโปรตุเกส เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและการเติบโตในระยะยาว

SCG Green Choice ฉลากสินค้าเพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยที่ดี

ปัจจุบัน เอสซีจีมีสินค้าในกลุ่ม SCG Green Choice ที่ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการใช้พลังงาน และยืดอายุ การใช้งานสินค้า เพื่อเป็นทางเลือกในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับผู้บริโภค จำนวนสินค้า 103 รายการ และมุ่งขยายเป็น 135 รายการ ภายในปีนี้ โดยในไตรมาสที่ 1 มีรายได้จากการขายสินค้า SCG Green Choice เท่ากับ 45,635 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37 ของรายได้จากการขายรวม

นอกจากนี้ เอสซีจีได้เพิ่มการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy) สำหรับกระบวนการผลิต โดยในปี 2563 มีสัดส่วนการใช้เท่ากับ 88,125 เมกะวัตต์-ชั่วโมง และในช่วงสองเดือนแรกของไตรมาสที่ 1 ปี 2564 เท่ากับ 14,769 เมกะวัตต์–ชั่วโมง เช่นเดียวกับพลังงานทางเลือก (Alternative Fuel) ที่มีสัดส่วนการใช้เพิ่มขึ้น เพื่อให้บรรลุนโยบายลดสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล (Zero Coal Initiative) โดยในปี 2563 มีสัดส่วนการใช้เท่ากับร้อยละ 14.3 ในขณะที่ในช่วงสองเดือนแรกของไตรมาสที่ 1 ปี 2564 มีสัดส่วนการใช้เท่ากับร้อยละ 16.0

สำหรับธุรกิจเคมิคอลส์ ดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวคิด ESG เพื่อมุ่งสู่การเป็น “ธุรกิจปิโตรเคมีเพื่อความยั่งยืน” ซึ่งนอกจากจะเน้นการขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) อาทิ  SMX™ HDPE และ HDPE Pipe PE112 แล้ว ยังเร่งการเข้าสู่ธุรกิจที่ตลาดมีการเติบโตสูง เช่น ธุรกิจด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ล่าสุด ได้เข้าสู่ธุรกิจด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนในยุโรป ด้วยการลงนามในสัญญาซื้อหุ้นบริษัท ซีพลาสต์ (Sirplaste) ผู้ประกอบธุรกิจและผู้นำด้านพลาสติกรีไซเคิลในประเทศโปรตุเกส ซึ่งนอกจากจะส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนแล้ว ยังสามารถนำความได้เปรียบนี้ไปพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีรีไซเคิลในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งขยายช่องทางการขายในตลาดยุโรปได้

Chemical Business Sirplaste

นอกจากนี้ โครงการขยายกำลังการผลิตของโรงงาน MOC Debottleneck ซึ่งธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี และ DOW ได้ร่วมมือกันดำเนินโครงการ ก่อสร้างแล้วเสร็จเร็วกว่าแผนและเริ่มทดลองดำเนินการผลิตแล้ว คาดว่าจะผลิตได้เต็มกำลังภายในเดือนพฤษภาคม 2564 จะทำให้มีกำลังการผลิตโอเลฟินส์เพิ่มขึ้น 350,000 ตันต่อปี ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้กระบวนการผลิตมีต้นทุนการลงทุนที่ต่ำลง และยังทำให้ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Process) ในส่วนของโครงการปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) ที่เวียดนามคืบหน้าตามแผนร้อยละ 76 โดยจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในครึ่งปีแรกของปี 2566

นอกจากนี้ เอสซีจีอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการปรับโครงสร้างธุรกิจเคมิคอลส์ รวมถึงการเสนอขายหุ้น SCG Chemicals ต่อประชาชนทั่วไป เพื่อรองรับโอกาสในการขยายธุรกิจเคมิคอลส์ในอนาคต เช่น ความเป็นไปได้ในการขยายกำลังการผลิตในภูมิภาคอาเซียน และการลงทุนอื่น ๆ ซึ่งคาดว่าการศึกษาและการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2565

ส่วนธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ยังคงเติบโตอย่างมีคุณภาพ ผ่านการนำเสนอสินค้า บริการ และโซลูชันครบวงจร ตอบโจทย์การก่อสร้างและการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง ESG อาทิ โซลูชัน Green Construction ของ CPAC ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยยกระดับมาตรฐานงานก่อสร้างของไทยให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการด้วย CPAC Construction Solution เช่น CPAC BIM, CPAC Drone, CPAC 3D Printing และ CPAC Smart Structure ตั้งเป้าเปลี่ยนของเสียจากงานก่อสร้างให้เกิดประโยชน์คืนกลับสู่สังคม (Waste to Wealth) ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ประมาณร้อยละ 10-20

CPAC BIM สร้าง 3D Model เห็นภาพรวมอาคารและฟังก์ชันการใช้งานจริง

นอกจากนี้ ธุรกิจได้ขยายตลาด SCG Solar Roof Solution ทั้งลูกค้ากลุ่มเจ้าของบ้าน (Residential) และกลุ่มผู้ประกอบการ (Non- Residential) ที่ใช้ไฟในตอนกลางวันต่อเนื่อง ตอบโจทย์ความต้องการลดรายจ่ายค่าไฟฟ้า และเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดในภาคประชาชนให้สูงขึ้น โดยตั้งเป้ายอดขายรวม 600 ล้านบาท ในปี 2564 และล่าสุดได้เปิดตัว EV Solution Platform โซลูชันที่ให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาดครบวงจร เพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม

ขณะเดียวกัน ธุรกิจได้เปิดตัว SCG D’COR (เอสซีจี เดคคอร์) วัสดุตกแต่งทางเลือกใหม่ พร้อมบริการ SCG D’COR Facade Solution ตอบรับการก่อสร้างที่ต้องการทั้งความสวยงามและประสิทธิภาพการใช้งาน และจะขยายสาขา SCG HOME เพิ่มอีก 33 สาขา รวมเป็น 50 สาขา ภายในปีนี้ ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ รวมทั้งพัฒนา SCGHOME.com ให้เป็น Super Platform ของการทำบ้านที่ครบวงจรที่สุด เชื่อมต่อระหว่างหน้าร้านและระบบออนไลน์ ตามแนวคิด Active Omni-channel เป็นเพื่อนคู่คิดให้ลูกค้าตั้งแต่การวางแผน การปรับปรุงบ้าน จนถึงการเข้าอยู่อาศัย

ขณะที่ ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ยังคงเติบโตได้ดี ด้วยการนำเสนอโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน โดยดำเนินงานตามโมเดลธุรกิจที่มุ่งขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ปลายน้ำ (Downstream) สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคในภูมิภาคอาเซียน รุกขยายกำลังการผลิตและผนึกกำลังระหว่างฐานการผลิตต่าง ๆ ซึ่งได้เปิดดำเนินการโรงงานผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์กำลังผลิตส่วนเพิ่ม 400,000 ตันต่อปี ของ Fajar ในประเทศอินโดนีเซีย และการขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์อีกกว่า 347 ล้านชิ้นต่อปี ในบริษัทวีซี่ แพ็คเกจิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจ ยังสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงด้านต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งสินค้าทางเรือได้ดี ทำให้สามารถรองรับความต้องการของตลาดที่ฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

OptiBreath® บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยคงความสดของผักผลไม้ให้นานขึ้น

ขณะเดียวกัน ธุรกิจได้พัฒนานวัตกรรมโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ล่าสุดได้พัฒนา OptiBreath® บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยคงความสดของผักผลไม้ให้นานขึ้น ลดการเน่าเสียและข้อจำกัดทางการขนส่ง ด้วยเทคโนโลยีของฟิล์มที่ช่วยควบคุมการผ่านเข้าออกของก๊าซและไอน้ำ และ Odor LockTM บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยเก็บกลิ่นอาหาร สะดวกต่อการขนส่งและวางจำหน่ายร่วมกับสินค้าอื่น โดยวางจำหน่ายแล้วในร้านค้าออนไลน์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการและผู้บริโภคในฤดูกาลผลไม้นี้

สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 ระลอกสามนี้ ค่อนข้างรุนแรง และส่งผลกระทบด้านสุขภาพและเศรษฐกิจในวงกว้าง ที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามเต็มที่ในการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัปดาห์นี้ ที่ภาครัฐได้ยกระดับมาตรการให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี และเชื่อว่า หากพวกเราทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลอย่างเคร่งครัด เช่น ช่วยกัน Work from Home ให้มากที่สุด สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือให้สะอาด และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ฯลฯ ก็จะช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้

สำหรับการผลิตวัคซีนป้องกันโควิค 19 “แอสตราเซเนก้า” โดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด มีความคืบหน้าด้วยดี ล่าสุด อย. ได้อนุมัติให้บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เป็นฐานการผลิตวัคซีนที่มีมาตรฐานสูง ซึ่งจะทำให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางในการผลิตและกระจายวัคซีนไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้สามารถเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยจะเริ่มทยอยฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้

ขณะเดียวกัน มูลนิธิเอสซีจี เอสซีจี และเอสซีจีพี ได้กระจายความช่วยเหลือไปยัง 270 หน่วยงานใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะเร่งด่วนให้กับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ด้วยนวัตกรรม “เตียงสนามกระดาษเอสซีจีพี (SCGP Paper Field Hospital Bed)” จำนวน 22,000 ชุด ที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิล ออกแบบตามหลักการยศาสตร์ รองรับการใช้งานตามสรีระของคนเอเชีย รับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม ขนส่งและประกอบได้ง่าย รวมถึงนวัตกรรม “ห้องน้ำสำเร็จรูป Modular Bathroom” นวัตกรรม “ห้องความดันอากาศบวก (Positive Pressure Room)” และอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ

SCGP เตียงสนามกระดาษ

นอกจากนี้ เอสซีจี หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และบริษัทชั้นนำ จะช่วยสนับสนุนภาครัฐในการกระจายวัคซีนให้รวดเร็ว เกิดประสิทธิภาพ และทั่วถึงมากที่สุด ทั้งด้านอุปกรณ์ บุคลากร งบประมาณ และสถานที่ โดยเอสซีจีได้จัดเตรียมพื้นที่บริเวณสำนักงานใหญ่เอสซีจี บางซื่อ ให้เป็น “สถานีฉีดวัคซีน” สำหรับประชาชน โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนมิถุนายนนี้ ผมหวังว่า ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และการดูแลตนเองของเราทุกคน จะช่วยให้เราผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ด้วยกัน ขณะเดียวกัน ก็จะนำไปสู่การฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาคึกคักได้โดยเร็ว”

ห้องน้ำสำเร็จรูป Modular Bathroom

Published on: Apr 29, 2021

(Visited 1,394 times, 1 visits today)
ดาวน์โหลดข่าว
Tags: ธุรกิจแพคเกจจิ้ง, Chemicals Business, Packaging Business, เอสซีจี, ธุรกิจเคมิคอลส์, ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง, ผลประกอบการ, แนวทาง ESG, SCG Green Choice, Environmental Social and Governance

Post navigation

62 องค์กรผนึกกำลังร่วมส่งต่อกล่องกระดาษเหลือใช้ เพื่อรีไซเคิลเป็นเตียงสนามกระดาษเอสซีจีพี
เอสซีจี เปิดสนญ. บางซื่อ เป็น “สถานีฉีดวัคซีนโควิด 19” หนุนภาครัฐนำวัคซีนสู่ประชาชนได้รวดเร็ว ทั่วถึง

RECENT NEWS

Products & Services

ท่อเอสซีจี จับมือไทยโอบายาชิ จัดอบรมพัฒนาบุคลากรผู้รับเหมางานระบบ เสริมสร้างความรู้การเชื่อมต่อ-ประกอบท่อ และข้อต่อพีพีอาร์ (PP-R) เอสซีจี เดินหน้ายกระดับมาตรฐานคุณภาพ งานระบบประปาสู่ระดับสากล

June 24/2022
Circular Way

ซีพี ออลล์-เซเว่น จับมือ 10 พันธมิตร สร้างระบบนิเวศจัดการขยะที่ใหญ่ที่สุดในไทย ต่อยอด “ภาคีเครือข่ายต้นกล้าไร้ถัง” พัฒนา 443 โรงเรียนทั่วประเทศ ดูแลสิ่งแวดล้อมยั่งยืน

June 24/2022
Innovation

ศศินทร์ และ เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) เปิดเวที “SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2022 Global Competition” การแข่งขันแผนธุรกิจ Startup ระดับโลก

June 21/2022
Sustainability & CSR

พลิกผืนดินให้เขียวชอุ่ม สร้างอาชีพ ดึงแรงงานกลับถิ่น คืนสุขให้ชุมชน บทพิสูจน์ความมุ่งมั่น ตั้งใจแก้วิกฤติน้ำแล้งน้ำท่วม ของผู้นำไม่มีตำแหน่ง

June 16/2022
Innovation

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล จัดงาน EV EXPO 2022 งานมหกรรมจัดแสดงยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท พร้อมกิจกรรมมากมายในงาน

June 15/2022

NEWS CATEGORIES

  • Innovation
  • Business
  • Sports
  • Sustainability & CSR
  • Circular Way
  • Products & Services
  • VDO

Videos

Life can change If we dare to change

Turning arid land back into water

A company that intends to grow with the community

The woman who turned a barren forest into an orchard

SCG CORPORATE

  • รู้จักเอสซีจี
  • ธุรกิจเอสซีจี
  • แบรนด์เอสซีจี
  • สินค้าและบริการ
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • บรรษัทภิบาล
  • การพัฒนาอย่างยั่งยืน

LATESTS IMAGES

Products & Services

ท่อเอสซีจี จับมือไทยโอบายาชิ จัดอบรมพัฒนาบุคลากรผู้รับเหมางานระบบ เสริมสร้างความรู้การเชื่อมต่อ-ประกอบท่อ และข้อต่อพีพีอาร์ (PP-R) เอสซีจี เดินหน้ายกระดับมาตรฐานคุณภาพ งานระบบประปาสู่ระดับสากล

June 24/2022
Circular Way

ซีพี ออลล์-เซเว่น จับมือ 10 พันธมิตร สร้างระบบนิเวศจัดการขยะที่ใหญ่ที่สุดในไทย ต่อยอด “ภาคีเครือข่ายต้นกล้าไร้ถัง” พัฒนา 443 โรงเรียนทั่วประเทศ ดูแลสิ่งแวดล้อมยั่งยืน

June 24/2022
Innovation

ศศินทร์ และ เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) เปิดเวที “SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2022 Global Competition” การแข่งขันแผนธุรกิจ Startup ระดับโลก

June 21/2022
Sustainability & CSR

พลิกผืนดินให้เขียวชอุ่ม สร้างอาชีพ ดึงแรงงานกลับถิ่น คืนสุขให้ชุมชน บทพิสูจน์ความมุ่งมั่น ตั้งใจแก้วิกฤติน้ำแล้งน้ำท่วม ของผู้นำไม่มีตำแหน่ง

June 16/2022
Innovation

เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล จัดงาน EV EXPO 2022 งานมหกรรมจัดแสดงยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท พร้อมกิจกรรมมากมายในงาน

June 15/2022
Sustainability & CSR

เอสซีจี แทคทีมเจนวายสายกรีน กู้วิกฤต ‘Climate Change’ จัดทริป ‘ใคร Make Change – ปลูกหญ้าทะเล @ ตรัง’ ลงพื้นที่ปลูก “หญ้าทะเล” ฮีโร่ลดโลกร้อน

June 13/2022
Sustainability & CSR

SCGC ร่วมประกาศเจตนารมณ์วันทะเลโลก 65 รวมพลังฟื้นฟู กอบกู้มหาสมุทร พร้อมเดินหน้าลดปัญหาขยะทะเล แบบบูรณาการ จับมือ ทช. เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พิทักษ์ทะเลแห่งใหม่ ใจกลางเมืองระยอง

June 13/2022
Business

SCGC พัฒนานวัตกรรมตอบเมกะเทรนด์โลก ชูวิสัยทัศน์เป็นผู้นำตลาดเคมีภัณฑ์อาเซียน

June 14/2022
Sustainability & CSR

เอสซีจี ร่วมผนึกกำลังกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และภาคีเครือข่าย ลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง ว่าด้วยความร่วมมือในการจัดการขยะ ทะเล นำร่อง 5 ปากแม่น้ำ นำนวัตกรรมเข้ามามีส่วนร่วม จัดการขยะทะเลให้เป็นศูนย์

June 9/2022

NEWS CATEGORIES

  • Innovation
  • Business
  • Sports
  • Sustainability & CSR
  • Circular Way
  • Products & Services
  • VDO

MEDIA CONTACT

  • 02-586-4444
  • 02-586-2974
  • INFO@SCG.COM
COPYRIGHT 2020 SCG