พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ” ให้ “โรงพยาบาลตำรวจ” เป็นแห่งที่ 7

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ภายใต้ “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” ให้กับ “โรงพยาบาลตำรวจ” เป็นแห่งที่ 7 โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้ 20 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อเสริมความพร้อมหากมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวมีการแยกพื้นที่ระหว่างทีมแพทย์และคนไข้ออกจากกัน และใช้ระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม พร้อมมีระบบฆ่าเชื้อ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยสามารถติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้ในเวลาเพียง 2 วัน จึงช่วยสร้างลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจรักษา และทำให้คลินิกระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ของโรงพยาบาลสามารถให้บริการได้แบบ One-Stop Service ครบวงจร อีกทั้งในอนาคตยังสามารถต่อยอดเป็นสถานที่ตรวจหาเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ได้ ยังความปลื้มปีติแก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ทั้งนี้ พิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวมี พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.​, พลตำรวจเอก​ มนู​ เมฆหมอก รอง​ ผบ.ตร.​, พลตำรวจเอก ชนสิษฎ์​ วัฒนวรางกูร​ จเรตำรวจแห่งชาติ, พลตำรวจเอก​ สุวัฒน์​ แจ้งยอดสุข​ รอง​ ผบ.ตร.​, พลตำรวจโท​ เพิ่มพูน​ ชิดชอบ​ ผู้ช่วย​ ผบ.ตร.​, พลตำรวจโท วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมด้วยผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจ และนายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ร่วมพิธีฯ

พิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ

พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “คลินิกระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) เดิมของโรงพยาบาลตำรวจ​ เป็นพื้นที่กลางแจ้ง​ ซึ่งมีปัญหา​อุปสรรคในเรื่อง​อากาศที่ร้อนเกินไป​ และหากเกิดฝนตก​ก็จะใช้การไม่ได้​ การได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อในครั้งนี้​​ ทำให้การตรวจหาเชื้อ​สะดวก​สบาย​ รวดเร็ว​ และปลอดภัยมากขึ้น​ จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง​ 2​ พระองค์ท่าน​ ​ที่มีต่อ​บุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาล​ตำรวจทุกคน​อย่างล้นพ้น​ และเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์​มี​พลังในการทำงานต่อไป

ด้าน พลตำรวจโท วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า “บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตำรวจทุกคน​ และ​ผู้ป่วย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านเป็นอย่างมาก ที่ทรงห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ และทรงเห็นว่าทางโรงพยาบาลตำรวจขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งก่อนหน้านี้พระองค์ท่านได้พระราชทานเครื่องช่วยหายใจคุณภาพสูงให้ทางโรงพยาบาลตำรวจ​ 9​ เครื่อง รวมทั้งเครื่องตรวจออกซิเจนในเลือด หน้ากากอนามัย และ Face​ Shield เพื่อใช้ป้องกันเชื้อโรคด้วย​”

ส่วน พลตำรวจโท โสภณรัชต์​ สิงหจารุ​ นายแพทย์ ​(สบ​ 8) โรงพยาบาลตำรวจและประธานฝ่ายปฏิบัติการ​​ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง​ โรงพยาบาลตำรวจ​ ​กล่าวว่า​ “รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน​ ที่มีต่อ​บุคลากรทางการแพทย์​ของโรงพยาบาล​และ​พสกนิกรชาวไทยทุกคน​ ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์​และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทุกคน พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ต่อไป และร่วมต่อสู้ฟันฝ่าให้วิกฤตนี้หมดไปโดยเร็ว โดยห้องตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลตำรวจได้รับพระราชทาน​ในวันนี้ จะทำให้คลินิกระบบทางเดินหายใจของที่นี่​สามารถให้บริการแบบ​ One-Stop Service ที่อำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ป่วย แพทย์ และพยาบาลในการตรวจรักษาได้อย่างครบวงจรในจุดเดียว ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ประกอบกับ​บรรยากาศที่เย็นสบาย​ สะอาด และปลอดภัยตามมาตรฐานสากล และทำให้แพทย์ พยาบาล และผู้ป่วย ลดภาวะเสี่ยงการติดเชื้อด้วย”

ห้องตรวจหาเชื้อพระราชทานแห่งที่ 7 โรงพยาบาลตำรวจ

ขณะที่ นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้มีส่วนร่วมในการผลิตนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) เพื่อช่วยปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ และช่วยปกป้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจรักษา จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution จุดเด่นคือ มีระบบควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ และช่วยประหยัดการใช้ชุด PPE นอกจากนี้ ในอนาคต ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ตรวจหาเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ต่อไปได้ ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งของโรงพยาบาล ประกอบกับประสบการณ์และความชำนาญของทีมงานทำให้การติดตั้งสำเร็จในเวลาเพียง 2 วัน พร้อมให้บริการทันที จึงหวังว่าห้องตรวจหาเชื้อนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บุคลากรการแพทย์ พร้อมรับมือกับการตรวจรักษาโควิด-19 ได้อย่างมั่นใจ”

สำหรับ นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) นี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ดังนี้

  • ภายในห้องตรวจมีระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย และมีระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี
  • ทีมแพทย์จะอยู่ในห้องความดันบวก ที่ไม่มีอากาศเสียจากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องความดันลบ และมีระบบดูดอากาศเสียออกไปกำจัดอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก
  • การเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อเก็บตัวอย่าง ช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้เข้ารับการตรวจ
  • ใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ (UV Germicide) หลังการใช้งานทุกครั้ง
  • โครงสร้างกว่าร้อยละ 80 ประกอบขึ้นรูปภายในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอดกระบวนการผลิต จึงสามารถติดตั้งที่โรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการใช้งาน
นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution

ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับพระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” พัฒนาโดย “เอสซีจี” ได้แก่ 1. รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 2. รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 3. รพ.กลาง 4. สถาบันโรคทรวงอก 5. สถาบันบำราศนราดูร 6. รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก 7. รพ.ตำรวจ 8. รพ.ราชบุรี 9. รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 10. รพ.นครปฐม 11. รพ.อุตรดิตถ์ 12. รพ.สวรรค์ประชารักษ์ 13. รพ.นครพิงค์ 14. รพ.พหลพลพยุหเสนา 15. รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 16. รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ 17. รพ.อุดรธานี 18. รพ.สุราษฎร์ธานี 19. รพ.สงขลานครินทร์ และ 20. รพ.หาดใหญ่

(Visited 1,568 times, 1 visits today)