พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยพสกนิกร พระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” ให้แก่โรงพยาบาลกลาง เป็นแห่งที่ 3

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ซึ่งเป็นหนึ่งใน “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” เพื่อรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้โรงพยาบาลต่าง ๆ 20 แห่งทั่วประเทศ และได้พระราชทานให้แก่โรงพยาบาลกลาง สังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เป็นแห่งที่ 3 เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ให้บุคลากรทางการแพทย์ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ด้วยการแยกพื้นที่ระหว่างทีมแพทย์และคนไข้ห่างออกจากกัน และใช้ระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม พร้อมกับมีระบบฆ่าเชื้อ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยใช้เวลาติดตั้งอย่างรวดเร็วภายใน 2 วัน เพื่อให้พร้อมบริการแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนได้ทันที

อีกทั้งยังสามารถปรับเป็นห้องตรวจผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจได้เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ยังความปลื้มปีติแก่ทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น โดยมีนายแพทย์สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร แพทย์หญิงสุภาพร กรลักษณ์ รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร นายแพทย์เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง นางสาวอภิรดี สุนันทตานนท์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง และฝ่ายบริหาร พร้อมด้วยนายยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี และนางวีนัส อัศวสิทธิถาวร ผู้อำนวยการสำนักงาน Enterprise Brand Management เอสซีจี ร่วมพิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว

ห้องตรวจหาเชื้อพระราชทาน แห่งที่ 2 รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว และแห่งที่ 3 รพ.กลาง กรุงเทพมหานคร

นายแพทย์สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระเมตตาต่อโรงพยาบาลกลาง บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลกลางอย่างหาที่สุดมิได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเครื่องช่วยหายใจ และเครื่องมือแพทย์พระราชทาน เพื่อรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ รวม 20 แห่งทั่วประเทศ โรงพยาบาลกลาง บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลกลาง และประชาชนทุกคน รู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี อย่างหาที่สุดมิได้ และจะนำนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อที่ได้รับพระราชทานในครั้งนี้ไปใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุดเต็มกำลังความสามารถ และเพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเป็นแนวหน้า อีกทั้งเป็นกำลังหลักในการรักษาผู้ป่วยให้มีขวัญ มีกำลังใจ และมีความปลอดภัยในการปฏิบัติงานต่อไป”

นายยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจีรู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้มีส่วนร่วมในการผลิตนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) เพื่อช่วยปกป้องแพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการตอบแทนความเสียสละและอุทิศตนของท่านทั้งหลายที่ได้ช่วยกันดูแลรักษาผู้ป่วย และปกป้องประชาชนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้

ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)

โดยห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวพัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution ซึ่งออกแบบให้มีระบบที่จะช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย มีระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ภายในอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยแก่บุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้มากขึ้น

ด้วยระบบที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศของนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อนี้โรงพยาบาลฯ สามารถปรับห้องตรวจหาเชื้อเป็นห้องตรวจผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจได้เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ การติดตั้งห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวสำเร็จลงภายในเวลาเพียง 2 วัน ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทางโรงพยาบาลฯ ประกอบกับประสบการณ์และความชำนาญของทีมติดตั้งจึงทำให้โรงพยาบาลฯ พร้อมให้บริการแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนได้ในทันที”

ทางด้าน นายแพทย์เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง กล่าวว่า “โรงพยาบาลกลาง สำนักการแพทย์ นับเป็นโรงพยาบาลแห่งที่ 3 ที่ได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) พวกเรารู้สึกปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการการตรวจหาเชื้อ ซึ่งจุดคัดกรองและตรวจหาเชื้อนับว่าเป็นจุดที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อให้กับบุคลากรที่ปฏิบัติงานหรือผู้มารับบริการ ดังนั้น หากเรามีห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) จะเป็นการเพิ่มศักยภาพ

และลดการแพร่กระจายเชื้อ ช่วยลดอัตราเสี่ยงจากการติดเชื้อและเกิดความปลอดภัยต่อบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี ทำให้การรักษาพยาบาลของประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งรองรับผู้ที่มารับการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลฯ ซึ่งมีเฉลี่ยวันละมากกว่า 100 คน”

สำหรับนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) นี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution ภายในห้องตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้ออกแบบให้มีระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย และระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี โดยทีมแพทย์จะอยู่ในห้องความดันบวก ที่ไม่มีอากาศเสียจากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ ปลอดภัย

Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศ

ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องความดันลบ และมีระบบดูดอากาศเสียออกไปกำจัดอย่างต่อเนื่อง จึงป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่ทีมแพทย์ ซึ่งการเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อเก็บตัวอย่าง จึงลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้ที่เข้ารับการตรวจพร้อมใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ (UV Germicide) หลังจากการใช้งานในห้องทุกครั้ง ทั้งนี้ โครงสร้างกว่าร้อยละ 80 ประกอบขึ้นรูปภายในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอด กระบวนการผลิต และยังสามารถติดตั้งได้รวดเร็ว

ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่ง ที่ได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ได้แก่ 1. รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 2. รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 3. สถาบันบำราศนราดูร 4. รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 5. สถาบันโรคทรวงอก 6. รพ.ตำรวจ 7. รพ.กลาง 8. รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ 9. รพ.นครปฐม 10. รพ.ราชบุรี 11. รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก 12. รพ.พหลพลพยุหเสนา 13. รพ.อุตรดิตถ์ 14. รพ.สวรรค์ประชารักษ์ 15. รพ.นครพิงค์ 16. รพ.อุดรธานี 17. รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 18. รพ.สุราษฎร์ธานี 19. รพ.สงขลานครินทร์ และ 20. รพ.หาดใหญ่

(Visited 1,189 times, 1 visits today)