พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ให้กับ “โรงพยาบาลนครปฐม” เป็นแห่งที่ 10 จาก 20 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้าง ภายใต้ “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” เพื่อเสริมความพร้อมหากมีการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวจะแยกพื้นที่ระหว่างทีมแพทย์และคนไข้ออกจากกัน และใช้ระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม พร้อมมีระบบฆ่าเชื้อ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยสามารถติดตั้งได้ในเวลาเพียง 3 วัน จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งประชาชนที่มาตรวจรักษา และรองรับประชาชนที่มาตรวจหาเชื้อได้จำนวนมาก เนื่องจากโรงพยาบาลนครปฐมมุ่งทำการค้นหาเชิงรุกกับกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ อีกทั้งในอนาคตยังสามารถต่อยอดเป็นสถานที่ตรวจหาเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ได้ ยังความปลื้มปีติแก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ทั้งนี้ พิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวมีนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม แพทย์หญิงดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ พร้อมด้วยผู้บริหารโรงพยาบาลฯ และผู้บริหารเอสซีจี ร่วมพิธี
![](https://scgnewschannel.com/wp-content/uploads/2020/05/SWAB-10-3.jpg)
นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรในจังหวัดนครปฐม และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลนครปฐมอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ให้แก่โรงพยาบาลนครปฐม จังหวัดนครปฐม เป็นแห่งที่ 10 ประชาชนชาวจังหวัดนครปฐมทุกคนจึงรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และจะนำนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อที่ได้รับพระราชทานในครั้งนี้ ไปใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างดีที่สุด และเพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเป็นแนวหน้า อีกทั้งเป็นกำลังหลักในการรักษาผู้ป่วยให้มีขวัญมีกำลังใจ และมีความปลอดภัยในการปฏิบัติงานต่อไป”
ด้าน นายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า “การที่โรงพยาบาลนครปฐมได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ในครั้งนี้ นับเป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจต่อบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการอย่างมาก เพราะปัจจุบันมีประชาชนในจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงมารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนครปฐมจำนวนมาก”
ส่วน แพทย์หญิงดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม กล่าวว่า “การตรวจหาเชื้อจากผู้ป่วยเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์การแพทย์ ดังนั้น ถ้าเรามีห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) จะช่วยลดอัตราเสี่ยงจากการติดเชื้อและให้ความปลอดภัยต่อบุคลากรทางการแพทย์ผู้ปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี ทำให้การรักษาพยาบาลประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ พวกเราจึงรู้สึกปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้”
![](https://scgnewschannel.com/wp-content/uploads/2020/05/YT-NAKONTHOM.jpg)
ขณะที่ นายบรรณ เกษมทรัพย์ Head of Distribution and Retail Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้มีส่วนร่วมในการผลิตนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) เพื่อช่วยปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ และช่วยปกป้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจรักษา จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution จุดเด่นคือ มีระบบควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งประชาชนที่มาตรวจรักษา และรองรับประชาชนที่มาตรวจหาเชื้อได้จำนวนมาก เนื่องจากโรงพยาบาลนครปฐมมุ่งทำการค้นหาเชิงรุกกับกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ นอกจากนี้ ในอนาคต ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ตรวจหาเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ ต่อไปได้ ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งของโรงพยาบาล ประกอบกับประสบการณ์และความชำนาญของทีมงานทำให้การติดตั้งสำเร็จในเวลาเพียง 3 วัน พร้อมให้บริการทันที จึงหวังว่าห้องตรวจหาเชื้อนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บุคลากรการแพทย์ พร้อมรับมือกับการตรวจรักษาโควิด-19 ได้อย่างมั่นใจ”
สำหรับ นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) นี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ดังนี้
- ภายในห้องตรวจมีระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย และมีระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี
- ทีมแพทย์จะอยู่ในห้องความดันบวก ที่ไม่มีอากาศเสียจากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องความดันลบ และมีระบบดูดอากาศเสียออกไปกำจัดอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก
- การเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อเก็บตัวอย่าง ช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้เข้ารับการตรวจ
- ใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ (UV Germicide) หลังการใช้งานทุกครั้ง
- โครงสร้างกว่าร้อยละ 80 ประกอบขึ้นรูปภายในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอดกระบวนการผลิต จึงสามารถติดตั้งที่โรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการใช้งาน
![](https://scgnewschannel.com/wp-content/uploads/2020/05/SWAB-10-4.jpg)
ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับพระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” พัฒนาโดย “เอสซีจี” ได้แก่ 1. รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 2. รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 3. รพ.กลาง 4. สถาบันโรคทรวงอก 5. สถาบันบำราศนราดูร 6. รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก 7. รพ.ตำรวจ 8. รพ.ราชบุรี 9. รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 10. รพ.นครปฐม 11. รพ.อุตรดิตถ์ 12. รพ.สวรรค์ประชารักษ์ 13. รพ.นครพิงค์ 14. รพ.พหลพลพยุหเสนา 15. รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 16. รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ 17. รพ.อุดรธานี 18. รพ.สุราษฎร์ธานี 19. รพ.สงขลานครินทร์ และ 20. รพ.หาดใหญ่