เอสซีจี ร่วมแบ่งปันมุมมองบนเวที Techsauce Global Summit 2024 ชี้ประเด็น เราจะอยู่กันอย่างไร? หากอุณหภูมิโลกพุ่งสูงเกินกว่าจุดที่จะแก้ไขและอยู่ได้ โจทย์ความยั่งยืนวันนี้จึงต้องเร่ง ทั้งลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ฟื้นฟูธรรมชาติ และดูแลสังคม โดยใช้เทคโนโลยีและความร่วมมือเป็นกุญแจสำคัญ
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ร่วมแบ่งปันมุมมองบนเวทีเสวนา The World after Sustainability: What’s the Next Global Agenda ในงาน Techsauce Global Summit 2024 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ต่อสถานการณ์โลกเดือดในปัจจุบัน ที่อุณหภูมิโลกมีแนวโน้มจะสูงถึง 2 องศาเซลเซียส และอาจเพิ่มขึ้นแตะ 2.5-3 องศาเซลเซียส ซึ่งถือเป็นจุดพลิกผันของโลก ที่ทำให้ธรรมชาติเปลี่ยนไป เปลี่ยนผืนป่าสู่ทะเลทราย เมื่อถึงจุดนั้น สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม จะได้รับผลกระทบเกินกว่าจะเยียวยา ทุกคนต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอด ในโลกที่ไม่เหมือนเดิม ความท้าทายนี้ทำให้การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม สังคม มีความสำคัญมากขึ้น และต้องทำควบคู่ไปกับ การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
“เอสซีจีตั้งเป้าทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ Net Zero 2050 ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน เพื่อไปถึงเป้าหมายในอีก 26 ปีข้างหน้า แต่สถานการณ์โลกเดือดที่ผ่านมาเป็นตัวบอกว่าต้องเร่งมือเพิ่มขึ้น ทั้งการลดและดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งฟื้นฟูดูแลสิ่งแวดล้อม โดยมีเทคโนโลยีและความร่วมมือเป็นกุญแจสำคัญ”
นายธรรมศักดิ์ ยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีมาเป็นตัวเดินเรื่องในการฟื้นฟูธรรมชาติ “ระบบนิเวศทางท้องทะเล ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ทำให้ทรัพยากร และความอุดมสมบูรณ์ ของปะการังเสื่อมโทรม เอสซีจีจึงนำเทคโนโลยี CPAC 3D Printing Solution มาสร้างสรรค์ ‘บ้านปะการัง’ ที่มีความคล้ายกับปะการังจริง กลมกลืนกับธรรมชาติ มีประสิทธิภาพในการลงเกาะ และการเจริญเติบโตของตัวอ่อนปะการัง ผลิตจากปูนซีเมนต์รักษ์โลก ที่เป็นมิตรต่อสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล แข็งแรง ทนทาน มุ่งฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์กลับสู่ท้องทะเลไทย
ขณะที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ช่วยให้โลกค้นพบความเป็นไปได้ ของนวัตกรรมลดคาร์บอนไดออกไซด์ที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้น และเอสซีจีเร่งเดินหน้าพัฒนา เช่น SCGC (เอสซีจีซี) ร่วมกับ Avantium ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีด้านเคมีทดแทน (Renewable Chemistry) จากประเทศเนเธอร์แลนด์ นำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาผลิต ‘พอลิเมอร์คาร์บอนฟุตพริ้นท์เป็นลบ’ ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในกระบวนการผลิต รวมถึงสามารถย่อยสลายได้ทั้งในสภาวะธรรมชาติและในทะเล นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ Braskem ผู้นำพลาสติกชีวภาพระดับโลก จากประเทศบราซิล ใช้จุดเด่นของประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองเกษตรกรรม นำผลิตผลจากภาคเกษตรมาพัฒนาเป็น ‘พลาสติกชีวภาพ’ พลาสติกรักษ์โลกที่ผลิตคาร์บอนเป็นลบ (Negative Carbon Footprint) สามารถรีไซเคิลได้เช่นเดียวกับพอลิเอทิลีนทั่วไป”
ความร่วมมือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเร่งสำคัญ ที่จะทำให้เราและโลกอยู่รอด นายธรรมศักดิ์ เล่าว่า “เอสซีจี เริ่มพัฒนานวัตกรรมกรีน ‘ปูนคาร์บอนต่ำ’ เมื่อหลายปีที่แล้ว ในเวลานั้นไม่มีใครเชื่อว่าจะทำสำเร็จ เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ จากทั้งผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่ธุรกิจ ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเดียวกัน ลูกค้า และการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบ แต่ผลลัพธ์จากการพัฒนาครั้งนี้ สะท้อนได้อย่างชัดเจนจากสัดส่วน การใช้ปูนคาร์บอนต่ำของประเทศไทย เพิ่มขึ้นเป็นกว่าร้อยละ 70 ในปี 2566 และยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหากไม่มีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ความตั้งใจนี้คงไม่มีวันเป็นไปได้”
อย่างไรก็ตาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ยังเน้นย้ำว่า ท่ามกลางวิกฤตสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน กลุ่มคนตัวเล็กจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เราจำเป็นต้องช่วยเหลือกันซึ่งกันและกัน เพื่อให้ทุกคนเปลี่ยนผ่านไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน
“เอสซีจีพร้อมเป็นส่วนหนึ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพื่อส่งต่อโลกที่ยั่งยืนน่าอยู่ถึงคนทุกรุ่น และความร่วมมือของทุกภาคส่วน จะทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้อีกมาก เพราะความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องของใครคนหนึ่ง ถ้าหากทำเพียงลำพัง อุณหภูมิโลกก็จะยังสูง เกินกว่าทุกคนจะรับไหว เวลานั้นไม่ว่าใครก็จะได้รับ ผลกระทบและต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอด”
Techsauce Global Summit 2024 งานประชุมสุดยอดด้านเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ธีม ‘The World of Tomorrow With AI’ โดยมีผู้นำทั้งในและต่างประเทศ นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญสายเทคโนโลยี จากหลากหลายสาขา รวมกว่า 350 ท่าน มาร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์ ความรู้ และประสบการณ์ ระหว่างวันที่ 7 – 9 สิงหาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
Published on: Aug 9, 2024