เอสซีจี ร่วมส่งกำลังใจ เดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยปาบึก เร่งฟื้นฟูบ้านเรือนให้พี่น้องชาวใต้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้เร็วที่สุด

เอสซีจี ผนึกหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ชุมชน คู่ค้า และพนักงานจิตอาสา เดินหน้าบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องชาวใต้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึก โดยสนับสนุนหลังคา ปูนซีเมนต์ หินคลุก เพื่อใช้ซ่อมแซมบ้านเรือนในพื้นที่ประสบภัย จ.นครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมให้คำปรึกษา แนะนำการซ่อมแซมบ้านอย่างมืออาชีพ และร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด มอบส่วนลดสูงสุด 20% สำหรับกระเบื้องหลังคาลอนคู่ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 ม.ค. 62 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย

เอสซีจี เเละจิตอาสาช่วยเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยไปพักที่อาคารเอื้อสุข
เอสซีจีมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ
เอสซีจีร่วมกัยหน่วยงานภาครัฐนำส่งถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่

นายวิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ Head of Distribution and Retail Business เอสซีจี กล่าวว่า “จากอิทธิพลพายุโซนร้อนปาบึกที่พาดผ่านพื้นที่ภาคใต้ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ภาคใต้ 8 จังหวัด โดยเฉพาะ
จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 35,000 คน บ้านเรือนเสียหายกว่า 2,000 หลังคาเรือน เอสซีจี นำโดยมูลนิธิเอสซีจี บริษัทปูนซิเมนต์ไทย (ทุ่งสง) จำกัด และบริษัทกระเบื้องหลังคาซีแพค จำกัด (ทุ่งสง) จึงร่วมกับผู้แทนจำหน่ายในพื้นที่ภาคใต้ ติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมสำหรับช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตั้งแต่การช่วยเหลือเร่งด่วนเบื้องต้น เช่น การแจ้งเตือนชุมชนรอบโรงงานปูนซีเมนต์

เอสซีจีลงพื้นที่ที่ประภัยช่วยเหลือเเละดูเเลพี่น้องชาวใต้
เอสซีจีสนับสนุนปูนซีเมนต์แก่ผู้ประสบภัยปาบึก
เอสซีจีสนับสนุนหลังคาลอนคู่แก่ผู้ประสบภัยปาบึก

ทุ่งสงให้ยกของขึ้นที่สูง ตลอดจนช่วยเหลืออพยพผู้ประสบภัย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด ให้เข้าพักพิงในอาคารเอื้อสุข ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ ที่มูลนิธิฯ ได้ร่วมมือกับหน่วยงาน Customer and Brand Management Office ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี และสมาคมสถาปนิกสยามฯ พัฒนาแบบอาคารอเนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติพิเศษรองรับการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตั้งแต่ปี 2560 รวมถึงมอบถุงยังชีพจำนวน 500 ถุง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะประสบภัยสำหรับระยะฟื้นฟู รวมถึงสนับสนุนหลังคาลอนคู่ มูลค่า 2,000,000 บาท ปูนซีเมนต์ มูลค่า 280,000 บาท และหินคลุก จำนวน 500 ตัน ให้แก่ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายพิทักษ์ บุญคงแก้ว อุตสาหกรรมจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำหรับนำไปใช้ซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนและถนนที่ชำรุดใน จ.นครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียงที่ประสบภัย เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติเร็วที่สุด โดยมีพนักงานจิตอาสากว่า 40 คน ร่วมกับกลุ่มผู้รับเหมาและช่าง ลงพื้นที่เพื่อให้คำปรึกษา แนะนำการซ่อมแซมและทำความสะอาดบ้านเรือน วัด โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และศาลาประชาชน บริเวณชุมชนรอบโรงงาน และได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยในการซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัยด้วยการลดราคากระเบื้องหลังคาลอนคู่สี รุ่นไฮบริดทุกสี ลอนคู่ซีเมนต์ และลอนคู่ตราร่ม สูงสุด 20% ซึ่งพี่น้องชาวใต้สามารถหาซื้อได้ที่ร้านผู้แทนจำหน่ายเอสซีจี หรือร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วไป จำกัดจำนวนครอบครัวละไม่เกิน 300 แผ่น โดยต้องมีหนังสือรับรองจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดฯ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน โดยใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 มกราคม 2562 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด”

 

จิตอาสาร่วมกับประกอบถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พนักงานจิตอาสาเอสซีจีมอบถุงยังชีพจำนวน 500 ถุง แก่ผู้ประสบภัย
ระยอง-พนักงานเอสซีจี เเละจิตอาสา ร่วมกันทำความสะอาดหาดหนองแฟบ
ระยอง-พนักงานเอสซีจี ชุมชน เเละจิตอาสา ร่วมกันทำความสะอาดหาด
ระยอง-พนักงานเอสซีจี ร่วมกันทำความสะอาดหาดหนองแฟบ

ขณะเดียวกัน ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี และสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ได้สำรวจความเสียหายใน 11 กลุ่มประมงพื้นบ้านในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลบ้านฉาง เทศบาลเมืองมาบตาพุด และเทศบาลตำบล
เนินพระ เพื่อร่วมหาแนวทางในการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก และยังได้ร่วมกับเทศบาลเมืองมาบตาพุด กลุ่มประมงพื้นบ้าน และพนักงานจิตอาสากว่า 500 คน ทำความสะอาดและฟื้นฟูชายหาดสนกระซิบ หนองแฟบ ตากวน-อ่าวประดู่ สุชาดา แสงเงิน เก้ายอด และปากคลองตากวน รวมทั้งมอบอุปกรณ์ทำความสะอาดและน้ำดื่มแก่กลุ่มประมง นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดลงพื้นที่บรรเทาความเดือดร้อนโดยนำพนักงานจิตอาสาลงพื้นที่ตักทรายออกจากเครื่องมือประมงและที่พักอาศัยของชาวประมงซึ่งในบางพื้นที่มีทรายทับถมสูงถึง 2 เมตร

ระยอง-พนักงานเอสซีจี ร่วมกันทำความสะอาดหาดหนองแฟบ
อาคารเอื้อสุข โดยมูลนิธิเอสซีจี
(Visited 437 times, 1 visits today)