17 พฤษภาคม 2567 – กรุงเทพฯ – บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC และกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเตรียมพร้อมสู่ “พันธมิตรทางธุรกิจเพื่อพลาสติกหมุนเวียนอย่างยั่งยืนในเอเชีย (Partnership to Accelerate the Circular Plastic Ecosystem in Asia)” เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มการรีไซเคิลพลาสติก ตลอดห่วงโซ่คุณค่าอย่างมีประสิทธิภาพเป็นครั้งแรก ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งเป้าเร่งพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล เพื่อเปลี่ยนขยะพลาสติกปริมาณกว่า 200,000 ตันต่อปีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้เป็นผลิตภัณฑ์หมุนเวียนที่มีมูลค่าด้วยกระบวนการรีไซเคิลเชิงกล (Mechanical Recycling) และการรีไซเคิลขั้นสูง (Advanced Recycling) ภายในปี 2573
เอสซีจีซี (SCGC) และ ดาว (Dow) มีแผนจะเร่งพัฒนา และยกระดับการรีไซเคิลขยะพลาสติก ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง สำหรับความร่วมมือในขั้นแรกนั้นครอบคลุมถึงการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อนำพลาสติกใช้แล้วกลับเข้าสู่กระบวนการผลิต เม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (PCR) โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในปัจจุบัน รวมทั้งบูรณาการการลงทุน และการเข้าซื้อกิจการที่มีเทคโนโลยีรีไซเคิลขั้นสูง ที่เกี่ยวเนื่องกับการรีไซเคิลเชิงกล และการรีไซเคิลขั้นสูงในประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อสร้างระบบนิเวศห่วงโซ่คุณค่า ที่แข็งแกร่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งบริหารจัดการและรีไซเคิล เพื่อหมุนเวียนพลาสติกใช้แล้ว ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับในระยะถัดไป ทั้งสองบริษัทคาดการณ์ว่าจะร่วมกัน จัดหาพลาสติกใช้แล้วจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้น ในการผลิตพลาสติกรีไซเคิลชนิดต่าง ๆ และขยายไปยังส่วนอื่น ๆ ของภูมิภาค เช่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น
นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่าง SCGC และ Dow ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งสำคัญที่สององค์กรชั้นนำ ด้านพลาสติกเพื่อความยั่งยืน จะมาร่วมมือกันขับเคลื่อนและยกระดับระบบนิเวศให้กับ พลาสติกหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง อย่างมีประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดย SCGC พร้อมนำความเชี่ยวชาญ ด้านนวัตกรรมพลาสติกรักษ์โลก Green Polymer และเทคโนโลยีคอมพาวนด์ (Compound) ในการเพิ่มประสิทธิภาพเม็ดพลาสติก เพื่อคืนคุณค่าพลาสติกใช้แล้วตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนผ่านกระบวนการรีไซเคิลเชิงกล (Mechanical Recycling) และการรีไซเคิลขั้นสูง (Advanced Recycling) โดยยังคงคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ และรองรับความต้องการของตลาดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง ทั้งในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไปจนถึงกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า สะท้อนกลยุทธ์ Low Waste, Low Carbon ของ SCGC อย่างเป็นรูปธรรม”
นายบัมบัง จันดรา รองประธานฝ่ายธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และพลาสติกชนิดพิเศษของ Dow เปิดเผยว่า “เอเชียเป็นหนึ่งในแหล่งขนาดใหญ่ของพลาสติกใช้แล้วที่สามารถแปรรูปได้ เราต้องการพลิกโฉมวิธีการจัดการกับขยะในภูมิภาค โดยสร้างโมเดลใหม่ที่ให้คุณค่ากับพลาสติกใช้แล้วและวัสดุรีไซเคิลต่าง ๆ เพื่อเก็บรวบรวมสิ่งเหล่านี้ และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะแก้ไข ปัญหาขยะพลาสติกโดยพัฒนาเทคโนโลยีในการคัดแยกขยะ การรีไซเคิลเชิงกล และการรีไซเคิลขั้นสูง ความร่วมมือกับ SCGC จะทำให้ทั้งสองบริษัทมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนที่มากขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ที่เรามีจำหน่าย ความสามารถในการวิจัยและพัฒนา และลิขสิทธิ์ทางเทคโนโลยีของเรา เมื่อรวมกับความเชี่ยวชาญทางเทคนิค ในการผลิตเม็ดพลาสติกประสิทธิภาพสูงแล้ว ลูกค้าของเราจะได้รับความคุ้มค่า ทั้งในด้านต้นทุน ความพร้อม รวมไปถึงคุณภาพของพลาสติกและวัสดุหมุนเวียน”
“Dow ได้ดำเนินกิจการในประเทศไทยมานานถึง 57 ปี เรามีความภาคภูมิใจที่จะได้เริ่มต้นก้าวต่อไป ด้วยการพัฒนาพันธมิตรเพื่อธุรกิจ พลาสติกหมุนเวียนร่วมกับ SCGC ซึ่งเป็นคู่ค้าที่เราไว้วางใจ โดยตลอดระยะเวลา 37 ปีที่ก่อตั้งบริษัทร่วมทุนด้วยกันในประเทศไทยจะเห็นได้ว่า ทั้งสององค์กรมีความมุ่งมั่นที่เหมือนกันในด้านความเป็นเลิศและความยั่งยืน SCGC จึงเป็นพันธมิตรในอุดมคติของเรา ที่จะสำรวจโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ร่วมกันในครั้งนี้ โดยเราตั้งใจที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้าควบคู่ ไปกับการสนับสนุนอนาคตที่ยั่งยืนของภูมิภาคนี้” นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวเสริม
ความร่วมมือครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมาย การทำงานด้านความยั่งยืนในการ “เปลี่ยนขยะเป็นผลิตภัณฑ์ (Transform the Waste)” ของ Dow ทั่วโลก ซึ่งมุ่งมั่นจะเปลี่ยนขยะพลาสติก และนำวัตถุดิบทางเลือกรูปแบบอื่น ๆ มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถ นำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ ให้ได้ 3 ล้านตันต่อปีภายในปี พ.ศ. 2573 รวมทั้งสอดคล้องกับ เป้าหมายด้านความยั่งยืนของ SCGC ตามแนวทาง Low Waste, Low Carbon ที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 โดยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20% และมีเป้าหมายขยายสินค้าในกลุ่มพอลิเมอร์ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 1 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 อีกด้วย
เกี่ยวกับ SCGC
เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ เอสซีจีซี (SCGC) เป็นผู้นำด้านการผลิตเคมีภัณฑ์แบบครบวงจรในอาเซียน ทั้งในประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ขั้นต้น (โอเลฟินส์) ไปจนถึงขั้นปลาย ได้แก่ เม็ดพลาสติกหลักทั้ง 3 ประเภท คือ พอลิเอทิลีน พอลิโพรพิลีน และพอลิไวนิลคลอไรด์
SCGC มุ่งสร้างสรรค์ “นวัตกรรมเคมีภัณฑ์เพื่อทุกความเป็นได้” (INNOVATION THAT’S REAL) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ตามแนวทาง ESG และหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน SCGC เน้นพัฒนาสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA) เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐาน บรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค ยานยนต์ การแพทย์และสุขภาพ และโซลูชันด้านพลังงาน ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.scgchemicals.com
เกี่ยวกับ ‘ดาว’
Dow (NYSE: DOW) เป็นหนึ่งในบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลก ที่ให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง อาทิ บรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน ยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ความเป็นบริษัทระดับโลก ที่มีโรงงานขนาดใหญ่ และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ พร้อมด้วยความเป็นผู้นำทางธุรกิจและความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน ช่วยให้เราบรรลุการเติบโต อย่างมีผลกำไร และสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืน ปัจจุบัน Dow มีฐานการผลิตใน 31 ประเทศและมีพนักงานประมาณ 35,900 คน โดยมียอดขายประมาณ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566
ทั้งนี้ การอ้างอิงถึง Dow หรือบริษัทฯ นั้นจะหมายความถึง Dow Inc. และบริษัทในเครือ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรา และความมุ่งมั่นในการเป็นบริษัทวัสดุศาสตร์ชั้นนำของโลก ในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน ด้วยการทำงานที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และให้การยอมรับบุคลากรที่มีความหลากหลายได้ที่ www.dow.com
เกี่ยวกับ ‘กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย’
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow Thailand Group) เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 และได้ร่วมกับบริษัท เอสซีจี ก่อตั้งกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจี-ดาว ในปี พ.ศ. 2530 (ในปี 2565 เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้รีแบรนด์เป็น เอสซีจีซี) โดยในปัจจุบัน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ประกอบด้วยบริษัทซึ่ง Dow เป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว และกลุ่มบริษัทร่วมทุนเอสซีจีซี-ดาว นอกจากนี้ ยังมีบริษัทร่วมทุนระหว่าง Dow และ โซลเวย์ ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ ดาว ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก โดยมีโรงงานหลายแห่งตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง ตลาดหลักของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทยได้แก่ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ การก่อสร้าง และยานยนต์ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้ที่ https://www.dowfamilythailand.com หรือติดตามเฟซบุ๊ก www.facebook.com/DowThailandGroup/
Published on: May 17, 2024