เอสซีจี รับเพิ่ม 2 ดัชนียั่งยืนระดับโลก Sustainalytics และ MSCI

เอสซีจีได้รับเพิ่มอีก 2 ดัชนีความยั่งยืนชั้นนำโลก ESG Risk Ratings ระดับ ESG Industry Top Rated กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม จาก Morningstar Sustainalytics และ MSCI ESG Ratings ระดับ AA กลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง จาก Morgan Stanley Capital International (MSCI) ก่อนหน้านี้ได้จัดอันดับ อยู่ในดัชนีความยั่งยืน DJSI (Dow Jones Sustainability Indices) สาขาอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างต่อเนื่อง 19 ปีซ้อน ซึ่งทั้ง 3 ดัชนีความยั่งยืนนี้ นักลงทุนใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาการลงทุน เชื่อมั่นศักยภาพธุรกิจตามแนวทาง ESG 4 Plus พัฒนานวัตกรรมตรงใจลูกค้าสายกรีน มุ่งแก้วิกฤตโลกเดือด เปลี่ยนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สุทธิเป็นศูนย์ ปี 2593 ควบคู่ลดเหลื่อมล้ำในสังคม แก้จน สร้างอาชีพ ให้โอกาสทางการศึกษาและสร้างสุขภาวะให้ชุมชน

นายธรรมศักดิ์  เศรษฐอุดม ประธานคณะกรรมการร่วมการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี กล่าวว่า “จากการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ ESG 4 Plus อย่างต่อเนื่อง  มุ่ง Net Zero – Go Green – Lean เหลื่อมล้ำ – ย้ำร่วมมือ โดยยึดหลักเชื่อมั่นและโปร่งใส เน้นสร้างธุรกิจเติบโต ควบคู่กับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล ส่งผลให้เอสซีจีได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนชั้นนำของโลก เพิ่มอีก 2 ดัชนี คือ ESG Risk Ratings ระดับ ESG Industry Top Rated กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม (Industrial Conglomerates) จาก Morningstar Sustainalytics และ MSCI ESG Ratings ระดับ AA (Leader) กลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) จาก Morgan Stanley Capital International (MSCI) ทั้งนี้ เอสซีจีเคยได้รับการจัดอันดับ เป็นองค์กรยั่งยืนของโลกจาก ดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices – DJSI) กลุ่มอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง (Construction Materials) และเป็นองค์กรแรกในอาเซียนที่เป็นสมาชิก DJSI ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ตั้งแต่ปี 2547

นายธรรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า “เอสซีจีมุ่งสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และร่วมแก้วิกฤตโลกเดือด เพื่อเปลี่ยนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 ด้วยการปรับปรุงกระบวนการผลิตซึ่งครึ่งแรกของปี 2566 ธุรกิจซีเมนต์ในไทยได้เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนได้ร้อยละ 40 นอกจากนี้ยังเร่งพัฒนาสินค้า บริการ โซลูชันเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าสายกรีน ที่ต้องการความสะดวกสบาย ปลอดภัย คุ้มค่าและรักษ์โลกภายใต้ฉลาก Green Choice กว่า 250 รายการ อาทิ นวัตกรรมอัจฉริยะเพื่อคุณภาพอากาศ และประหยัดพลังงาน SCG Active AIR Quality, SCG Bi-ion  โซลูชันจัดการคุณภาพอากาศ กำจัดเชื้อโรค ลดการใช้พลังงานในอาคาร SCG Air Scrubber นวัตกรรมเม็ดพลาสติกรักษ์โลก SCGC GREEN POLYMERTM

ขณะเดียวกันยังร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลก พัฒนานวัตกรรมโซลูชันสีเขียว อาทิ Rondo Energy ประเทศสหรัฐอเมริกา สตาร์ทอัพระดับโลกด้านพลังงานสะอาด พัฒนานวัตกรรมแบตเตอรี่กักเก็บความร้อน (Thermal Energy Storage) อุณหภูมิสูงที่สุดในโลก เพื่อจ่ายพลังงานความร้อนให้โรงงาน ลดการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และ Braskem ผู้นำพลาสติกชีวภาพจากบราซิล ผลิตเอทิลีนชีวภาพ (Green-Ethylene) ที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นลบ (Negative carbon footprint) และรีไซเคิลได้

เอสซีจียังมุ่งลดความเหลื่อมล้ำในสังคมมากกว่า 50,000 คนด้วยการพัฒนาทักษะอาชีพ สร้างรายได้ให้ SMEs และชุมชน อาทิ ช่างก่อสร้าง พนักงานขับรถบรรทุก พัฒนาสินค้าชุมชน มอบทุนการศึกษาในสาขาที่ตลาดต้องการ และสนับสนุนให้มีสุขภาวะที่ดี อาทิ ระบบแพทย์ดิจิทัลทางไกล เพื่อให้ผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลได้รับคำปรึกษาจากแพทย์โดยไม่ต้องเดินทาง”

Morningstar Sustainalytics เป็นผู้นำการวิจัยด้านความยั่งยืนระดับโลก ที่จัดอันดับ ESG Risk Ratings ในกองทุนหุ้นรายตัว ช่วยให้นักลงทุนทั่วโลกทราบว่า กองทุนที่ลงทุนมีความเสี่ยงด้าน ESG ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาลมากน้อยเพียงใด  ส่วน MSCI ESG Ratings จัดทำขึ้นโดยบริษัท Morgan Stanley Capital International (MSCI) เป็นดัชนีอ้างอิง (benchmark) มาตรฐานวัดผลตอบแทนจากการลงทุน โดยประเมินจากความสามารถในการบริหารความเสี่ยงด้าน ESG ที่องค์กรเผชิญ (Risk Exposure) และความพร้อมในการบริหารจัดการความเสี่ยงนั้น ๆ (Risk Management) ในขณะที่ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices – DJSI) เป็นดัชนีวัดความยั่งยืนแรกของโลก จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ S&P Dow Jones Indices และ RobecoSAM ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจ ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน เชิญบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ทั่วโลกกว่า 3,400 แห่งใน 60 อุตสาหกรรมเข้าร่วมการประเมิน ทั้งนี้ นักลงทุนจะใช้ 3 ดัชนีข้างต้น เป็นข้อมูลประกอบการลงทุน เพื่อสร้างความมั่นใจในผลตอบแทนระยะยาว และสะท้อนถึงธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่กับการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

Published on: Sep 12, 2023

(Visited 578 times, 1 visits today)
ดาวน์โหลดข่าว