เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ที่โรงพยาบาลชลบุรี “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟสาวไทยและครอบครัว รวมทั้งนางวีนัส อัศวสิทธิถาวร Enterprise Brand Management Office Director เอสซีจี ร่วมมอบห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) และ Modular Bathroom ให้โรงพยาบาลชลบุรี มูลค่า 2,570,300 บาท โดยมีนายแพทย์สวรรค์ ขวัญใจพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี เป็นตัวแทนรับมอบ
โปรเมกล่าวว่า ขณะที่ยังอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเพื่อเตรียมลงแข่งขันกอล์ฟ ได้ติดตามข่าวจากสื่อและเห็นว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนมากพอสมควร จึงมีความคิดอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้ ซึ่งได้สอบถามมาทาง นางวีนัส อัศวสิทธิถาวร Enterprise Brand Management Office Director เอสซีจี ถึงแนวทางในการช่วยเหลือ และได้ทราบว่ามีนวัตกรรมการสร้างห้องตรวจเชื้อที่รวดเร็ว มีคุณภาพสูง และปลอดภัยต่อบุคลากรทางการแพทย์ จึงตัดสินใจร่วมบริจาคห้องตรวจหาเชื้อจำนวน 3 ห้อง ให้กับโรงพยาบาลชลบุรี เพราะชลบุรีเป็นจังหวัดที่ตนเองเดินทางมาแข่งขันกอล์ฟอยู่บ่อยครั้ง และเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีผู้ติดเชื้อค่อนข้างมาก โดยหวังว่าจะช่วยลดภาระและลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และเชื้อโรคต่างๆ ได้มากขึ้น
“ตอนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ตอนนั้นป้องกันตัวเองย่างเข้มงวดมาก ใส่หน้ากากอยู่กับบ้านตลอด และไม่ออกไหน นอกจากออกไปซื้ออาหารและของใช้ เพราะต้องระมัดระวังตัวเองให้ดีที่สุด เมถือว่าการดูแลตัวเองให้ไม่มีเชื้อ จะเป็นการช่วยป้องกันคนอื่นๆ ในสังคมไปด้วย อยากให้คนไทยช่วยกันรักษาระยะห่างและใส่หน้ากาก ดูแลตัวเองให้ดีแบบนี้ต่อไป เพื่อให้มีผู้ติดเชื้อน้อยที่สุด ที่สำคัญขอบคุณแพทย์และพยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เสียสละและทำงานอย่างหนักเพื่อเราทุกคน” โปรเมกล่าว
นางวีนัสกล่าวว่า โปรเมและครอบครัวได้ติดต่อถึงการช่วยเหลือในครั้งนี้มา จึงได้ให้ข้อมูลเรื่องห้องตรวจหาเชื้อให้ได้รับทราบ ซึ่งเอสซีจีได้เริ่มคิดพัฒนามาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยห้องตรวจจะแบ่งเป็นห้องของผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อและของเจ้าหน้าที่ซึ่งมีแรงดันอากาศต่างกัน และไม่มีการสัมผัสกัน ทำให้ไม่มีการแพร่กระจายของเชื้อ ขอชื่นชมเอรียาและครอบครัวในการช่วยเหลือครั้งนี้ ในส่วนของเอสซีจีเองก็พยายามพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อช่วยในการดูแลผู้ป่วยและลดภาระของทีมแพทย์อย่างต่อเนื่องด้วย
ด้านนายแพทย์สวรรค์กล่าวว่า ขอบคุณเอรียาและครอบครัว รวมทั้งเอสซีจีที่บริจาคห้องตรวจหาเชื้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่โรงพยาบาลอยากได้มากตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 และทางโรงพยาบาลเริ่มรับผู้ป่วยเข้ามารักษา โดยตลอดช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ได้ห้องตรวจหาเชื้อมาตั้ง มีผู้มาเข้ารับการตรวจไปแล้วกว่า 50 ราย แพทย์และเจ้าหน้าที่มีความสบายใจมากขึ้น เพราะไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ ไม่ต้องใช้ชุด PPE หรือแต่งตัวที่มิดชิดจนทำให้ทำงานได้ไม่สะดวก หลังจากนี้คาดว่าจะต้องใช้ห้องดังกล่าวในการตรวจหาไวรัสโควิด-19 ไปอีกกว่า 1 ปี เพราะยังไม่สามารถประเมินได้ว่าการระบาดจะหมดไปเมื่อไร และจะมีวัคซีนป้องกันและรักษาเมื่อไร อย่างไรก็ตามถึงแม้จะไม่มีโควิด-19 แล้ว ก็ยังสามารถนำไปใช้ตรวจหาเชื้อโรคติดต่ออื่นๆ ได้อีกในอนาคต
