พระเมตตาห่วงใยพสกนิกรไทย พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ” ให้ “โรงพยาบาลอุตรดิตถ์” เป็นแห่งที่ 11

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ภายใต้ “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” ให้กับ “โรงพยาบาลอุตรดิตถ์” เป็นแห่งที่ 11 โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้ เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้ 20 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อเสริมความพร้อมหากมีสถานการณ์
การระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวมีการแยกพื้นที่ระหว่างทีมแพทย์ และคนไข้ออกจากกัน และใช้ระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม พร้อมมีระบบฆ่าเชื้อ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลศูนย์ อยู่ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ที่มีผู้ป่วยทั้งในจังหวัดอุตรดิตถ์ และพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามารักษาเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ป่วยเฉลี่ยวันละประมาณ 2,300 ราย ดังนั้น การที่มีห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว จะช่วยปกป้อง และลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ แม้จะมีอุปสรรคจากสภาพอากาศที่มีผลกระทบจากพายุฤดูร้อน แต่ก็สามารถติดตั้งได้ภายใน 3 วัน เพื่อให้พร้อมบริการแก่บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนได้ทันที ยังความปลื้มปีติแก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนจังหวัดอุตรดิตถ์ และพื้นที่ใกล้เคียง ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ทั้งนี้ พิธีรับพระราชทานห้อง
ตรวจหาเชื้อดังกล่าวมี นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์  นายแพทย์เกษม  ตั้งเกษมสำราญ  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์  นายแพทย์อายุส ภมะราภา  พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ คณะผู้บริหารโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และนายชลณัฐ ญาณารณพ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ร่วมพิธีฯ

พิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)

นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล  ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี   ทรงมีพระเมตตาต่อจังหวัดอุตรดิตถ์ บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ อย่างหาที่สุดมิได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน เพื่อรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ให้  เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ รวม 20 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงโรงพยาบาลอุตรดิตถ์  บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ของโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และประชาชนทุกคนในจังหวัดอุตรดิตถ์ ผู้มารับบริการจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนชนลาว รู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และจะนำนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อที่ได้รับพระราชทานในครั้งนี้ไปใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผู้ป่วยติดเชื้ออื่น ๆ ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุดเต็มกำลังความสามารถ และเพื่อเป็นเครื่องมือป้องกัน ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเป็นแนวหน้า อีกทั้ง เป็นกำลังหลักในการรักษาผู้ป่วยให้มีขวัญ มีกำลังใจ และมีความปลอดภัยในการปฏิบัติงานต่อไป”

ด้าน นายแพทย์เกษม ตั้งเกษมสำราญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า  “โรงพยาบาลอุตรดิตถ์”  ได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ในครั้งนี้ อันเป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจต่อบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการการตรวจหาเชื้อ ซึ่งปัจจุบันจังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ จังหวัดตาก จังหวัดสุโขทัย และผู้มารับบริการจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนชนลาว ที่ต้องมารับการตรวจรักษาที่ “โรงพยาบาลอุตรดิตถ์” จำนวนมาก การได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ในครั้งนี้ พวกเรารู้สึกปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้”

ส่วน นายแพทย์อายุส ภมะราภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ กล่าวว่า “ทีมแพทย์ และบุคลากรโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ รู้สึกปลื้มปีติในพระเมตตา  “เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงห่วงใย” ทำให้บุคลกรทางการแพทย์ ไม่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง ปกติแล้วเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการกันเอง เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง  หากมีการระบาดใหม่ก็จะมีประโยชน์อย่างยิ่ง  เพราะโรงพยาบาลอุตรดิตถ์เป็นโรงพยาบาลศูนย์ ที่ดูแลผู้ป่วยทั้งในจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดใกล้เคียง ประกอบกับเรามีศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก การได้รับพระราชทาน Modular Swab Unit ครั้งนี้ จะยังประโยชน์ต่อการศึกษาเรียนรู้ของนิสิตแพทย์อีกด้วย”

นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)

ขณะที่ นายชลณัฐ ญาณารณพ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้มีส่วนร่วมในการผลิตนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) เพื่อช่วยปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ และช่วยปกป้องประชาชนในจังหวัดอุตรดิตถ์ และพื้นที่ใกล้เคียง ที่เข้ารับการตรวจรักษาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution จุดเด่นคือ มีระบบควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ และช่วยประหยัดการใช้ชุด PPE สำหรับห้องตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ติดตั้งในบริเวณที่เชื่อมต่อกับจุดตรวจรับ และหน่วยคัดกรองผู้ป่วยของโรงพยาบาล เพื่อให้ขั้นตอนการตรวจคัดกรองผู้ป่วยและการตรวจหาเชื้อดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้ว่าจะมีอุปสรรคในการติดตั้งจากสภาพอากาศที่เป็นผลกระทบจากพายุฤดูร้อน แต่ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งของทางโรงพยาบาล ประกอบกับประสบการณ์และความชำนาญของทีมติดตั้ง จึงทำให้การดำเนินการต่าง ๆ สำเร็จลงภายในเวลาเพียง 3 วัน พร้อมที่จะให้บริการแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนได้ในทันที”

สำหรับ นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) นี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ดังนี้

  • ภายในห้องตรวจมีระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย และมีระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี
  • ทีมแพทย์จะอยู่ในห้องความดันบวก ที่ไม่มีอากาศเสียจากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องความดันลบ และมีระบบดูดอากาศเสียออกไปกำจัดอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก
  • การเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อเก็บตัวอย่าง ช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้เข้ารับการตรวจ
  • ใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ (UV Germicide) หลังการใช้งานทุกครั้ง
  • โครงสร้างกว่าร้อยละ 80 ประกอบขึ้นรูปภายในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอดกระบวนการผลิต จึงสามารถติดตั้งที่โรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการใช้งาน
นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution

ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับพระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” พัฒนาโดย “เอสซีจี” ได้แก่ 1. รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 2. รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 3. รพ.กลาง 4. สถาบันโรคทรวงอก 5. สถาบันบำราศนราดูร 6. รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก 7. รพ.ตำรวจ 8. รพ.ราชบุรี 9. รพ.นครปฐม 10. รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 11. รพ.อุตรดิตถ์ 12. รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ 13. รพ.พหลพลพยุหเสนา 14. รพ.สวรรค์ประชารักษ์ 15. รพ.นครพิงค์ 16. รพ.อุดรธานี 17. รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 18. รพ.สุราษฎร์ธานี 19. รพ.สงขลานครินทร์ และ 20. รพ.หาดใหญ่

(Visited 1,718 times, 1 visits today)