พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ให้กับ “โรงพยาบาลหาดใหญ่” จังหวัดสงขลา เป็นแห่งที่ 19 จาก 20 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ซึ่งได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้าง ภายใต้ “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” เพื่อรับมาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในผู้ป่วยในทุกคน และเสริมความพร้อมหากมีการระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวจะแยกพื้นที่ระหว่างทีมแพทย์และคนไข้ออกจากกัน และใช้ระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม พร้อมมีระบบฆ่าเชื้อ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค อีกทั้งสามารถติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้ในเวลาเพียง 3 วัน เชื่อมต่อกับคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ของโรงพยาบาลฯ จึงช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อโควิด-19 ให้บุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ และประชาชนที่มาตรวจรักษา อีกทั้งอนาคตยังต่อยอดเป็นสถานที่ตรวจหาเชื้อโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่น ๆ ได้ ยังความปลื้มปีติแก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ในการนี้ นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา นายแพทย์พีระพงษ์ ภาวสุทธิไพศิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ พร้อมด้วยผู้บริหารโรงพยาบาลฯ และผู้บริหารเอสซีจี ร่วมพิธีรับพระราชทาน

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “จังหวัดสงขลา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทุกคน รู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ที่ได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อในครั้งนี้ เพราะนับเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลกับทางโรงพยาบาลหาดใหญ่และจังหวัดสงขลา ที่จะนำไปใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในวันนี้และในอนาคต และเป็นเครื่องมือป้องกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเป็นแนวหน้า เพื่อให้มีความปลอดภัยในการทำงานต่อไป”
ด้าน นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “การที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่มาใช้บริการที่คลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ของโรงพยาบาลฯ และผู้ป่วยอื่น ๆ อีกทั้งการที่ล่าสุดได้มีประกาศของคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปค.สธ.) ว่าให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในผู้ป่วยที่รับไว้รักษาในโรงพยาบาลทุกราย ซึ่งปัจจุบันมีชาวจังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง ที่ต้องมารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลหาดใหญ่จำนวนมาก ดังนั้น การได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อในครั้งนี้ จึงสามารถรองรับการตรวจหาเชื้อเหล่านี้ได้ ทำให้พวกเรารู้สึกปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้”
ส่วน นายแพทย์พีระพงษ์ ภาวสุทธิไพศิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ กล่าวว่า “เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานห้องตรวจหาเชื้อให้กับโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่อให้ทีมแพทย์ พยาบาล ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกคน ได้ปฏิบัติงานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานป้องกันการระบาดในอนาคต อีกทั้งยังสามารถใช้งานในการตรวจหาเชื้อโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่นๆ ได้ด้วย ยังความปลาบปลื้มให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดสงขลา ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ทรงห่วงใย ทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรในโรงพยาบาล และประชาชนในจังหวัดสงขลา”

ขณะที่ นายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้มีส่วนร่วมในการผลิตนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) เพื่อช่วยปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ และช่วยปกป้องประชาชนที่มาตรวจรักษา จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution จุดเด่นคือ มีระบบควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศที่เหมาะสม จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชน นอกจากนี้ ในอนาคต ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ตรวจหาเชื้อโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่น ๆ ต่อไปได้ ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งของโรงพยาบาล ประกอบกับประสบการณ์และความชำนาญของทีมงานทำให้การติดตั้งสำเร็จในเวลาเพียง 3 วัน พร้อมให้บริการทันที จึงหวังว่าห้องตรวจหาเชื้อนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บุคลากรการแพทย์ พร้อมรับมือกับการตรวจรักษาโควิด-19 ได้อย่างมั่นใจในทุกระยะ”
สำหรับ นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) นี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ดังนี้
- ภายในห้องตรวจมีระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย และมีระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี
- ทีมแพทย์จะอยู่ในห้องความดันบวก ที่ไม่มีอากาศเสียจากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องความดันลบ และมีระบบดูดอากาศเสียออกไปกำจัดอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก
- การเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อเก็บตัวอย่าง ช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้เข้ารับการตรวจ
- ใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ (UV Germicide) หลังการใช้งานทุกครั้ง
- โครงสร้างกว่าร้อยละ 80 ประกอบขึ้นรูปภายในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอดกระบวนการผลิต จึงสามารถติดตั้งที่โรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการใช้งาน

ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับพระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” พัฒนาโดย “เอสซีจี” ได้แก่ 1. รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 2. รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 3. รพ.กลาง 4. สถาบันโรคทรวงอก 5. สถาบันบำราศนราดูร 6. รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก 7. รพ.ตำรวจ 8. รพ.ราชบุรี 9. รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 10. รพ.นครปฐม 11. รพ.อุตรดิตถ์ 12. รพ.สวรรค์ประชารักษ์ 13. รพ.นครพิงค์ 14. รพ.พหลพลพยุหเสนา 15. รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ 16. รพ.อุดรธานี 17. รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 18. รพ.สุราษฎร์ธานี 19. รพ.หาดใหญ่ และ 20. รพ.สงขลานครินทร์