พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” พัฒนาโดยเอสซีจี แก่โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก เป็นแห่งที่ 6

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” แก่โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัด พิษณุโลก  เป็นแห่งที่ 6  ซึ่งเป็นหนึ่งใน “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” เพื่อรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจี ดำเนินการก่อสร้างให้โรงพยาบาลต่าง ๆ 20 แห่งทั่วประเทศ โดยโรงพยาบาลพุทธชินราช  ถือเป็นโรงพยาบาลศูนย์ของภาคเหนือตอนล่างที่มีผู้ป่วยในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียงมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยวันละ 3,000 คน  ทั้งนี้ นวัตกรรมดังกล่าว จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ สามารถรับมือกับเชื้อโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากจะแยกพื้นที่ระหว่างทีมแพทย์และคนไข้ห่างออกจากกัน และใช้ระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม พร้อมกับมีระบบฆ่าเชื้อ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค  สามารถติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้อย่างรวดเร็วภายใน 3 วัน  นับเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะช่วยป้องกันการระบาดซ้ำ  อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ในการตรวจผู้ป่วยติดเชื้อชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย    ยังความปลื้มปีติแก่ทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น โดยมี นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก  นายสมชาย เพชรอำไพ รักษาการในตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก คณะผู้บริหารโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก  พร้อมด้วยนายบรรณ เกษมทรัพย์ Head of Distribution and Retail Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ร่วมในพิธี ณ โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก

ห้องตรวจเชื้อพระราชทาน แห่งที่ 6 รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก

นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก  กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระเมตตาต่อจังหวัดพิษณุโลก บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก อย่างหาที่สุดมิได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน เพื่อรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ รวม 20 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงโรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ของโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก และประชาชนทุกคน รู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และจะนำนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อที่ได้รับพระราชทานในครั้งนี้ไปใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุดเต็มกำลังความสามารถ และเพื่อเป็นเครื่องมือป้องกัน ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเป็นแนวหน้า อีกทั้ง เป็นกำลังหลักในการรักษาผู้ป่วยให้มีขวัญ มีกำลังใจ และมีความปลอดภัยในการปฏิบัติงานต่อไป”

นายสมชาย เพชรอำไพ รักษาการในตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก “โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ในครั้งนี้ อันเป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจต่อบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการการตรวจหาเชื้อ ซึ่งปัจจุบันจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง ต้องมารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก จำนวนมาก การได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ในครั้งนี้ พวกเรารู้สึกปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้”

นายแพทย์สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก “โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ในครั้งนี้ พวกเรารู้สึกปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ อันเป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจต่อบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการ การตรวจหาเชื้อจากผู้ป่วยเป็นจุดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ ดังนั้น ถ้าเรามีห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) จะช่วยลดอัตราเสี่ยงจากการติดเชื้อและให้ความปลอดภัยต่อบุคลากรทางการแพทย์ผู้ปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี ทำให้การรักษาพยาบาลประชาชนชาวไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลฯ มีบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลการตรวจหาเชื้อ ครบทุกสาขาวิชาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์การแพทย์ การได้รับห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ดังกล่าว ส่งผลให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ในครั้งนี้ พวกเรารู้สึกปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้”

พิธีรับพระราชทาน ห้องตรวจหาเชื้อ

ขณะที่ นายบรรณ เกษมทรัพย์ Head of Distribution and Retail Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้มีส่วนร่วมในการผลิตนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) เพื่อช่วยปกป้องแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ขณะปฏิบัติหน้าที่ อันเป็นการตอบแทนความเสียสละและอุทิศตนของท่านทั้งหลายที่ได้ช่วยกันดูแลรักษาผู้ป่วย และยังช่วยปกป้องประชาชนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ โดยห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution ซึ่งได้ออกแบบให้มีระบบที่จะช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย มีระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ภายในอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยแก่บุคลากรทางการแพทย์ ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้มากขึ้น สำหรับห้องตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ได้ดำเนินการติดตั้งได้ภายใน 3 วัน ณ ลานอเนกประสงค์ ซึ่งใกล้กับอาคารผู้ป่วยนอกทำให้สะดวกต่อการใช้งาน และพร้อมที่จะให้บริการแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนได้ในทันที”

นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)

นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) นี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution ภายในห้องตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้ออกแบบให้มีระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย และระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี โดยทีมแพทย์จะอยู่ในห้องความดันบวก ที่ไม่มีอากาศเสียจากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องความดันลบ และมีระบบดูดอากาศเสียออกไปกำจัดอย่างต่อเนื่อง จึงป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่ทีมแพทย์ ซึ่งการเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อเก็บตัวอย่าง จึงลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้ที่เข้ารับการตรวจพร้อมใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ (UV Germicide) หลังจากการใช้งานในห้องทุกครั้ง ทั้งนี้ โครงสร้างกว่าร้อยละ 80 ประกอบขึ้นรูปภายในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอดกระบวนการผลิต และยังสามารถติดตั้งได้รวดเร็ว

ปกป้องบุคลากรทางการแพทย์และคนไข้อื่น ๆ ให้ปลอดภัยจากโควิด-19

ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับพระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” พัฒนาโดย “เอสซีจี” ได้แก่ 1. รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 2. รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 3. รพ.กลาง 4. สถาบันโรคทรวงอก 5. สถาบันบำราศนราดูร 6. รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก 7. รพ.ตำรวจ  8. รพ.นครปฐม  9. รพ.อุตรดิตถ์ 10. รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 11. รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ 12. รพ.ราชบุรี    13. รพ.พหลพลพยุหเสนา 14. รพ.สวรรค์ประชารักษ์ 15. รพ.นครพิงค์ 16. รพ.อุดรธานี 17. รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 18. รพ.สุราษฎร์ธานี 19. รพ.สงขลานครินทร์ และ 20. รพ.หาดใหญ่

(Visited 1,531 times, 1 visits today)