พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทาน ห้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นแห่งที่ 13 ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ สร้างความเชื่อมั่นให้ทั้ง บุคลากรทางการแพทย์ ยังความปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณแก่ประชาชนชาวเชียงใหม่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน  “ห้องตรวจหาเชื้อ  (Modular Swab Unit)” ภายใต้ “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” ให้แก่  โรงพยาบาลนครพิงค์  เป็นแห่งที่ 13 โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจี  ดำเนินการก่อสร้างให้ 20 โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อเสริมความพร้อมหากมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าวมีการแยกพื้นที่ระหว่างทีมแพทย์และคนไข้ออกจากกัน และใช้ระบบควบคุมแรงดันและคุณภาพอากาศที่เหมาะสม พร้อมมีระบบฆ่าเชื้อ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

โรงพยาบาลนครพิงค์ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ประจำจังหวัดเชียงใหม่สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ก่อตั้งมา 40 ปี  ตั้งแต่ปี 2523 (ในนาม โรงพยาบาลเชียงใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น โรงพยาบาลนครพิงค์ เมื่อปี 2533) ปัจจุบันมีผู้ป่วยทั้งในจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามารักษาเป็นจำนวนมากวันละประมาณ  3,000 ราย  ดังนั้น การที่มีห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว จะช่วยปกป้องและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยสามารถติดตั้งห้องตรวจฯ ได้ภายใน 3 วัน เพื่อให้พร้อมบริการแก่บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนได้ทันที ยังความปลื้มปีติแก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง ต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น  ทั้งนี้ พิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว  โดยมี นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  นายจตุชัย  มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่  นายวรเชษฐ  เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์  พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะผู้บริหารโรงพยาบาลนครพิงค์ และ นายบรรณ เกษมทรัพย์ Head of SCG Home Retail and Distribution Business เอสซีจี และนายสมชัย กมลลาภวรกุล ผู้อำนวยการภาคเหนือ เอสซีจี และคณะผู้บริหาร เอสซีจี ร่วมพิธีฯ

พิธีรับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่  กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี   ทรงมีพระเมตตาต่อจังหวัดเชียงใหม่ บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลนครพิงค์ อย่างหาที่สุดมิได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน เพื่อรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยพระราชทานพระราชทรัพย์ให้  เอสซีจี ดำเนินการก่อสร้างให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ รวม 20 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงโรงพยาบาลนครพิงค์  บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ของโรงพยาบาลนครพิงค์  และประชาชนทุกคนในจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง รู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และจะนำนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อที่ได้รับพระราชทานในครั้งนี้ไปใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผู้ป่วยติดเชื้ออื่นๆ ให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีที่สุดเต็มกำลังความสามารถ และเพื่อเป็นเครื่องมือป้องกัน ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานเป็นแนวหน้า อีกทั้ง เป็นกำลังหลักในการรักษาผู้ป่วยให้มีขวัญ มีกำลังใจ และมีความปลอดภัยในการปฏิบัติงานต่อไป”

นายจตุชัย  มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ “โรงพยาบาลนครพิงค์”  ได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ในครั้งนี้ อันเป็นการเพิ่มขวัญและกำลังใจต่อบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการการตรวจหาเชื้อ ซึ่งปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ จังหวัดลำพูน จังหวัดลำปาง และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ต้องมารับการตรวจรักษาที่ “โรงพยาบาลนครพิงค์”  จำนวนมาก การได้รับพระราชทานห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) ในครั้งนี้ พวกเรารู้สึกปลื้มปีติ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้”

นายวรเชษฐ  เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์  กล่าวว่า “ทีมแพทย์ และบุคลากรโรงพยาบาลนครพิงค์ รู้สึกปลื้มปีติในพระเมตตา เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงห่วงใย ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ ไม่ต้องสัมผัสผู้ป่วยโดยตรง ปกติแล้วเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการกันเอง เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หากมีการระบาดใหม่ก็จะมีประโยชน์อย่างยิ่ง  เพราะโรงพยาบาลนครพิงค์ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ ที่ดูแลผู้ป่วยทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง ประกอบกับเรามีศูนย์แพทยศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก การได้รับพระราชทาน Modular Swab Unit ครั้งนี้จะยังประโยชน์ต่อการศึกษาเรียนรู้ของนิสิตแพทย์อีกด้วย”

นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)

นายบรรณ เกษมทรัพย์ Head of SCG Home Retail and Distribution Business เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจี รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้มีส่วนร่วมในการผลิตนวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) เพื่อช่วยปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ และช่วยปกป้องประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง ที่เข้ารับการตรวจรักษาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยห้องตรวจหาเชื้อดังกล่าว พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution จุดเด่นคือ มีระบบควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้บุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ และช่วยประหยัดการใช้ชุด PPE สำหรับห้องตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลนครพิงค์ เชียงใหม่  ได้เริ่มดำเนินการเตรียมพื้นที่เพื่อรองรับ  ณ บริเวณหน้าลานด้านข้างอาคารผู้ป่วยนอกและอุบัติเหตุฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2563  แล้วเริ่มติดตั้ง Modular Swab Unit เมื่อ 25 พฤษภาคม 2563 โดยการดำเนินการติดตั้งสำเร็จภายในเวลา 3 วัน  พร้อมที่จะปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ ในการให้บริการแก่พี่น้องประชาชนได้ในทันที

สำหรับ นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) นี้ พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ดังนี้

  • ภายในห้องตรวจมีระบบ Smart Indoor Air Quality (IAQ Smart) ที่ช่วยควบคุมแรงดันและการหมุนเวียนของอากาศให้สะอาด ปลอดภัย และมีระบบการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) ที่ทำให้ห้องปิดสนิท ป้องกันอากาศเข้า-ออกตัวอาคาร ทำให้ในตัวอาคารสามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เป็นอย่างดี
  • ทีมแพทย์จะอยู่ในห้องความดันบวก ที่ไม่มีอากาศเสียจากภายนอกเข้าไป อากาศภายในจึงบริสุทธิ์ปลอดภัย ส่วนผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อจะอยู่ในห้องความดันลบ และมีระบบดูดอากาศเสียออกไปกำจัดอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยป้องกันไม่ให้มีอากาศฟุ้งกระจายออกไปภายนอก
  • การเก็บตัวอย่าง (Swab) จะทำผ่านแผ่นอะคริลิกที่เจาะเป็นช่อง โดยแพทย์สามารถสอดมือผ่านช่องที่มีถุงมือคลุมด้วยพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเพื่อเก็บตัวอย่าง ช่วยลดความเสี่ยงในการปนเปื้อนจากผู้เข้ารับการตรวจ
  • ใช้แสงยูวีเข้มข้นสูง ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ (UV Germicide) หลังการใช้งานทุกครั้ง
  • โครงสร้างกว่าร้อยละ 80 ประกอบขึ้นรูปภายในโรงงานที่มีการควบคุมคุณภาพและความสะอาดตลอดกระบวนการผลิต จึงสามารถติดตั้งที่โรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการใช้งาน
นวัตกรรมห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit) พัฒนาจากเทคโนโลยีของ SCG HEIM และ Living Solution

ทั้งนี้ โรงพยาบาล 20 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้รับพระราชทานนวัตกรรม “ห้องตรวจหาเชื้อ” พัฒนาโดย “เอสซีจี” ได้แก่ 1. รพ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ 2. รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว 3. รพ.กลาง 4. สถาบันโรคทรวงอก 5. สถาบันบำราศนราดูร 6. รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก 7. รพ.ตำรวจ 8. รพ.ราชบุรี 9. รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 10. รพ.นครปฐม 11. รพ.อุตรดิตถ์ 12. รพ.สวรรค์ประชารักษ์ 13. รพ.นครพิงค์ 14. รพ.พหลพลพยุหเสนา 15. รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ 16.รพ.อุดรธานี 17. รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ 18. รพ.สุราษฎร์ธานี 19. รพ.หาดใหญ่ 20.รพ.สงขลานครินทร์

(Visited 1,342 times, 1 visits today)