เอสซีจี ได้รับใบรับรองสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากสถาบันสิ่งแวดล้อมประเทศไทย (TEI) ทั้งฉลากเขียว (Green Label) และฉลากลดคาร์บอน (Carbon Reduction Label) ในหมวดปูนซีเมนต์และหลังคา โดยเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกรายแรกที่ได้รับการรับรองฉลากเขียว รวมถึงเป็นผู้ผลิตหลังคารายแรกและรายเดียวที่ได้รับการรับรองฉลากลดคาร์บอนที่มีส่วนช่วยลดก๊าซเรือนกระจก (Green House Gas) ได้มากกว่าร้อยละ 2 และเป็นผู้ผลิตหลังคารายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองพร้อมกันทั้ง 2 ฉลากในปีเดียวกัน
นายฎายิน เกียรติกวานกุล Marketing Director บริษัท กระเบื้องหลังคาซีแพค จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า “หลังคาเอสซีจีมีองค์ประกอบ กระบวนการผลิต มาตรฐานการใช้ ตลอดจนถึงการทิ้งทำลายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีคุณสมบัติช่วยลดความร้อน ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง จึงช่วยให้เจ้าของบ้านประหยัดค่าไฟฟ้า อีกทั้งน้ำที่ชะหลังคายังปลอดภัยจากปริมาณโลหะหนักและสารปนเปื้อน จึงสามารถนำไปอุปโภคได้ และด้วยความใส่ใจตั้งแต่กระบวนการคิดเพื่อลูกค้านี้เอง จึงทำให้หลังคาเอสซีจีได้รับการรับรองฉลากเขียว (Green Label) ทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ หลังคาคอนกรีต เอสซีจี รุ่นซีแพค และรุ่นเพรสทีจ เอ็กชิลด์ และหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ เอสซีจี รุ่นลอนคู่
นอกจากนั้น ในปีนี้หลังคาเอสซีจียังได้เครื่องหมายรับรองฉลากลดคาร์บอน (Carbon Reduction Label) ซึ่งเป็นฉลากรับรองการลดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับผลิตภัณฑ์ โดยสินค้าที่ได้รับการรับรอง ได้แก่ หลังคาเซรามิค เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า และรุ่นเซลิกา เคิร์ฟ และหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ เอสซีจีทุกรุ่น ซึ่งนับเป็นบริษัทผู้ผลิตหลังคารายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองฉลากนี้ อีกทั้งผลิตภัณฑ์นี้ยังสามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าร้อยละ 2 จากกระบวนการผลิตอีกด้วย”
ด้าน นายกริช ชินประสาทศักดิ์ Marketing and Product Line Management Director Cement and Construction Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ผู้ผลิตสินค้าปูนซีเมนต์ เอสซีจี กล่าวว่า “ในปีนี้ ปูนงานโครงสร้าง เอสซีจี สูตรไฮบริด ได้รับเกียรติบัตรการใช้เครื่องหมายรับรองฉลากเขียว โดยเอสซีจีเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ได้รับการรับรองฉลากเขียวสำหรับสินค้าปูนซีเมนต์ไฮดรอลิก เนื่องจากเป็นปูนสูตรใหม่ที่พัฒนาเพื่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติจากการลดการใช้สัดส่วนปูนเม็ดลง อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ให้เกิน 800 KgCO2 ต่อตันผลิตภัณฑ์ ซึ่งนับว่ามีส่วนช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงอย่างยิ่งในปัจจุบัน
นอกจากนั้น “ปูนเสือ ก่อ ฉาบ เท สูตรเนื้อแน่น” ยังได้รับใบรับรอง “ฉลากลดคาร์บอน” เนื่องจากใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ และการนำลมร้อนเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตมาปั่นไฟฟ้า รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักร ซึ่งช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงเมื่อเปรียบเทียบข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากปีฐาน”
ทั้งนี้ ฉลากเขียว (Green Label) และ ฉลากลดคาร์บอน (Carbon Reduction Label) ถือเป็นสัญลักษณ์ที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ด้วยการรับรองผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้บริโภค ซึ่งเอสซีจีตระหนักถึงบทบาทสำคัญในฐานะผู้ผลิตสินค้าที่มีความรับผิดชอบ จึงได้คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมสินค้า บริการ และโซลูชัน ที่มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ตามแนวทาง SCG Circular way ที่สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับสิ่งแวดล้อมและคนในสังคมไทยได้อย่างยั่งยืน
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่างๆ ของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ได้ที่ SCG HOME Contact Center โทร. 02-586-222 หรือดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ http://www.scgbuildingmaterials.com และสามารถติดตามข่าวสารอื่นๆ ของเอสซีจีได้ที่ http://scgnewschannel.com / Facebook: scgnewschannel / Twitter: @scgnewschannel หรือ Line@: @scgnewschannel