เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 นายศาณิต เกษสุวรรณ Business Stakeholders Engagement Director ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี พร้อมด้วยพนักงานจากสำนักงานใหญ่บางซื่อและโรงงานปูนซีเมนต์ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ตัวแทนภาครัฐ โดย นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และนายเมธี มีชัย ตัวแทนผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตลอดจนชาวบ้านชุมชนบ้านมดตะนอยและชุมชนเกาะลิบง พร้อมใจเข้าร่วมกิจกรรม “สร้างบ้านให้ปลา ปลูกหญ้าให้พะยูน” ณ หมู่บ้านบ้านมดตะนอย และเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
กิจกรรมดังกล่าวนับเป็นการขยายผลโครงการ “รักษ์น้ำ จากภูผา สู่มหานที” จากบ้านมดตะนอย ไปสู่เกาะลิบง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำแห่งใหม่ เพื่อส่งเสริมศักยภาพประมงพื้นบ้านและระบบนิเวศวิทยาทางทะเล ยกระดับคุณภาพชีวิตชาวประมงพื้นบ้านของหมู่บ้านมดตะนอยและชุมชนเกาะลิบง ควบคู่ไปกับการพัฒนาองค์ความรู้ท้องถิ่นให้เป็นชุมชนต้นแบบที่เข้มแข็ง เตรียมพร้อมก่อนขยายความสำเร็จไปยังชุมชนอื่นๆ ต่อไป
ทั้งนี้ จากการสำรวจบ้านปลาที่คลองลัดเจ้าไหม บ้านมดตะนอย จังหวัดตรัง ครั้งล่าสุดของสถานวิจัยความเป็นเลิศความหลากหลายทางชีวภาพแห่งคาบสมุทรไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่า นอกจากสิ่งมีชีวิตที่มีมากกว่า 50 ชนิด ยังมีปลาเศรษฐกิจหลากหลายพันธุ์เข้ามาอาศัยที่บ้านปลาแห่งนี้ ปัญหารายได้น้อยของชาวประมงในช่วงมรสุมจากการไม่สามารถออกไปหาปลาในทะเลไกลๆ ได้ เริ่มคลี่คลายลง เพราะปัจจุบันชาวประมงสามารถหาปลาตรงจุดที่เอสซีจีวางบ้านปลาได้แล้ว เป็นการเพิ่มความสะดวกเนื่องจากใกล้ชายฝั่งมากกว่า อีกทั้งยังทำให้มีความปลอดภัย และมีรายได้ที่จะนำมาเลี้ยงครัวเรือนมากขึ้น
ที่ผ่านมา ช่วงฤดูมรสุมในเดือนมิถุนายน-กันยายน ปี 2561 เอสซีจี ภาครัฐ ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมมือกันดูแลรักษาและฟื้นฟูแหล่งทรัพยากร ทั้งที่บ้านมดตะนอยและเกาะลิบง โดยมีทีมเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เข้าไปสำรวจพื้นที่พร้อมระบุพิกัดที่จะวางบ้านปลา รวมทั้งกำหนดกติการ่วมกับชุมชนในการดูแลและบริหารการจัดการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการดำรงชีวิตของชุมชนชาวประมง นอกจากนี้ การเตรียมงานต่างๆ ยังได้รับความร่วมมือและความเห็นชอบจากภาครัฐ ตลอดจนความร่วมมือของชาวบ้านที่มาช่วยกันหล่อบ้านปลา และการอบรมถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องแก่เยาวชน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างเป็นระบบและเกิดความต่อเนื่องอย่างดี
ดังนั้น ตั้งแต่ต้นปี 2561 จนถึงวันนี้ (21 พฤศจิกายน 2561) เอสซีจีวางบ้านปลาไปได้ทั้งหมด 200 หลัง และเดือนธันวาคม 2561 จะวางอีก 100 หลัง เพื่อให้ได้ 300 หลังตามเป้าหมายในปี 2561 นี้ โดยบ้านปลาที่ใช้ในครั้งนี้หล่อจากปูนงานโครงสร้างทนทานพิเศษของเอสซีจี หรือปูนคนใต้ ซึ่งเป็นปูนสูตรใหม่ของเอสซีจีที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อซัลเฟตและคลอไรด์จากน้ำทะเลได้ดีกว่าเดิมถึง 2 เท่า ถือว่าเป็นนวัตกรรมปูนซีเมนต์จากคนใต้เพื่อคนใต้อย่างแท้จริง
นอกจากกิจกรรมวางบ้านปลาแล้ว เอสซีจียังร่วมปลูกป่าโกงกางและหญ้าทะเล ณ เกาะลิบง รวมถึงจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือพะยูนและสัตว์ทะเลใกล้สูญพันธุ์ โดยได้รับความร่วมมือจากชุมชนและภาคีเครือข่ายอีกด้วย
จากพลังอันเข้มแข็งของชุมชนและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่มีเป้าหมายเดียวกันกับเอสซีจี คือ อยากเห็นทรัพยากรและระบบนิเวศทางทะเลดำรงอยู่คู่กับชาวใต้ ให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ปลายน้ำที่สมบูรณ์ยั่งยืน เกิดความสมดุล หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนและชุมชนให้มีความรักในท้องน้ำ ร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ดูแลชุมชนของตนเอง ต่อยอดและส่งต่อแนวคิดไปยังพื้นที่อื่นๆ ซึ่งถือเป็นการสานต่อโครงการ “รักษ์น้ำ จากภูผา สู่มหานที” จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำอย่างแท้จริง